วาดภาพงานแต่งตัวเองไว้แบบไหนกันบ้างคะ? โอคซังคือคนหนึ่งที่มีความฝันว่าสักวันต้องใส่ชุดเจ้าสาวสีขาวสักครั้งในชีวิตแต่ก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้มีโอกาสใส่ชุดเจ้าสาวสีขาวสัญชาติญี่ปุ่นแบบนี้ แต่ก่อนที่จะมีงานแต่งเกิดขึ้นได้ผ่านปัญหาต่างๆมามากมาย ซึ่งทำให้โอครู้ว่าการจัดงานแต่งในญี่ปุ่นไม่ยากอย่างที่คิด ใครที่กำลังอยากจัดงานแต่งงานในญี่ปุ่นหรือประสบปัญหาไม่มีงานแต่งงานแบบญี่ปุ่นสักที อ่านบทความนี้แล้วจะได้แนวทางในการเช่าชุดเจ้าสาวญี่ปุ่นและวิธีการจัดการแต่งแบบของโอคเองอย่างแน่นอน
สามีญี่ปุ่นไม่ยอมจัดงานแต่ง
ก่อนหน้านี้โอคซังและสามีไม่สามารถจัดงานแต่งงานได้เพราะติดปัญหาเรื่องเงิน แค่ให้มีใช้มีเก็บสำหรับอนาคตในวันพรุ่งนี้ยังหายาก ดังนั้นอย่าพูดถึงเรื่องงานแต่งงานเพราะมันคงเป็นฝันที่เกินสภาพความเป็นจริง แต่เมื่อวันหนึ่งหลังจากที่เราใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมาหลายปีเราก็มีจังหวะที่ได้จัดงานแต่งกับเขาบ้างสักที โอคซังได้วางแผนจัดการแต่งเล็กๆที่แพลนว่าจะเชิญเพื่อนที่สนิทและครอบครัวมาเท่านั้นในโรงแรมแห่งหนึ่งในเกาะคิวชู โดยมีค่าใช้จ่ายทั้งหมดประมาณ2-3ล้านเยน กับจำนวนแขก30คน วางมัดจำนวน300,000เยนและกำหนดวันจัดงานเรียบร้อย
ที่ญี่ปุ่นก็มีธรรมเนียมในการให้ซองที่หนักมากตอบแบบไม่ต้องเขิลอาย คนที่มาในงานจะมีระดับเงินในการให้ยิ่งสนิทมากต้องให้มาก แต่ถ้าไม่สนิทเลยและมางานจะต้องใส่ซองเริ่มต้นที่30,000เยน(ประมาณ9,000บาท)ขึ้นไปและมีความเชื่อเรื่องตัวเลขนำโชคดังนั้นการใส่ซองแบบทั่วไปจึงนิยมใส่ซองที่ 30,000 50,000 70,000 80,000 90,000 หรือ100,000ขึ้นไปตามลำดับความสนิทค่ะ น้อยกว่านี้จะดูไม่ดีค่ะ
ตอนที่วางแผนจัดงานแต่งโรงแรมโอคคำนวนค่าใช้จ่ายแล้วเราจะได้เงินคืนมาแบบพอๆกับที่จ่ายไปดังนั้นจึงไม่กังวลเรื่องเงินเท่าไร(จ่ายจริงไม่มากเท่าไร) ใครที่อยากจัดในโรงแรมแล้วเชิญญาติสนิทลองดูข้อมูลนี้ไว้ได้ค่ะ
1.ลิสปัจจัยในการจัดงานแต่งงานแบบญี่ปุ่นของโอคซัง
เนื่องจากสามีของโอคไม่ชอบคนเยอะและโอคซังไม่สามารถปรึกษากับออแกไนซ์เซอร์ได้อีกต่อไป ดังนั้นการวางแผนงานแต่งงานทั้งหมดโอคซังต้องเป็นคนจัดการทั้งหมดจะให้โยนให้สามีทำก็กลัวเขาเครียดเกินไป โอคจึงได้เขียนลิสปัจจัยในการจัดงานของเราขึ้นมาดังนี้
- ประหยัดงบประมาณ
- แขกในงานมีเฉพาะครอบครัวสนิทเท่านั้น(เพื่อความสบายใจของสามี)
- คำนึงถึงแม่สามีที่เดินลำบากเพราะต้องใช้รถเข็น
- จัดในร่มกลัวฝนตกอากาศไม่เป็นใจ
- ธีมญี่ปุ่นย้อนยุคโบราณ
- มีกินเลี้ยงทานอาหารค่ำด้วยกัน(ไม่มีปลาดิบ ซูชิใดๆเพราะครอบครัวฝั่งไทยไม่ชอบทานค่ะ)
- ไม่มีพิธีกรรมทางศาสนา
ปัจจัยเหมือนกับผู้อ่านอยู่ตอนนี้กันบ้างไหมคะ
2.วางแผนจัดงานแต่งงานในญี่ปุ่น
เมื่อเราได้ปัจจัยด้านบนทั้งหมดมาแล้วโอคจึงดำเนินการจองสตูดิโอถ่ายภาพPreWeddingในการถ่ายรูปแต่งงาน และจองโต๊ะในร้านอาหารที่ชอบค่ะ เป็นขั้นตอนง่ายๆที่ไม่ต้องคิดมากอะไรค่ะเพราะโอคซังเองก็ไม่อยากเครียดในงานแต่งของตัวเองเช่นกันค่ะ
ติดต่อสตูดิโอถ่ายภาพเพื่อเช่าชุดและเช่าสถานที่ถ่ายรูป
ร้านบริการถ่ายรูปแบบนี้มีเยอะมากๆค่ะเพื่อนๆคนไหนสนใจลองหาในกูเกิ้ลจะมีขึ้นมาให้เลือกหลายร้าน โอคเลือกร้านในจังหวัดเกียวโตที่โอคอาศัยอยู่ซึ่งโดยปกติแล้วคอร์สถ่ายภาพจะมีให้เลือกแบบถ่ายรูปในสถานที่(ในสตูดิโอ)หรือถ่ายรูปนอกสถานที่ สำหรับโอคเลือกแบบถ่ายในสถานที่(สตูดิโอ)เพื่อแม่สามีที่เดินลำบากต้องใช้รถเข็น เพื่อความเป็นส่วนตัวให้ได้มากที่สุด และเผื่อสภาพอากาศไม่เป็นใจแสงไม่ดีกลัวภาพไม่สวยไม่อยากให้ทุกคนลำบากค่ะ
บรรยากาศภายในร้านค่ะ
มีชุดเจ้าสาวให้เลือกเยอะมากๆตาลายสุดๆแต่ไม่ต้องกังวลเพราะเขามีแคตตาล็อคมาให้เราดูค่ะ
ลังเลสีแดงอยู่เหมือนกันนะเพราะของจริงสวยมาก
แต่สุดท้ายก็มานั่งเลือกคอลเลกชั่นสีขาวครีม โอคเลือกตัวขวาสุดค่ะเพราะอยากให้เวลาถ่ายรูปมีความระยิบระยับเล็กๆออกมา เพราะถ่ายรูปมามองไม่ค่อยเห็นลายชัดเจนอยู่แล้วมันคือความสบายใจของเราล้วนๆ
ติดต่อจองร้านอาหาร
โอคจองโต๊ะในร้านอาหารให้พอดีกับจำนวนคนที่ไป โดยปกติแล้วการจองโต๊ะร้านอาหารเราสามารถจองแยกเป็นห้องเล็กๆส่วนตัวได้ ใครที่ต้องการจองแบบนี้ลองโทรถามทางร้านก่อนนะคะว่ามีห้องส่วนตัวไว้บริการไหม บางร้านก็มีบางร้านไม่มีค่ะ
3.เลือกชุดเจ้าสาวเจ้าบ่าวญี่ปุ่นกันเถอะ(วันลองชุด)
ให้เราไปตามเวลานัดกับทางร้านเพื่อทำการคุยเกี่ยวกับคอร์ส เลือกลองชุด เลือกทรงผมและทำสัญญาเข้าใช้บริการค่ะ ทางร้านสุภาพและบริการดีมากๆค่ะ ใครที่กลัวว่าจะซื้อคอร์สเพิ่มเกินราคาที่ตั้งไว้โอคซังแนะนำให้ดูคอร์สมาตั้งแต่ในเวปไซต์ร้านจะดีที่สุดเพราะถ้ามาถึงที่ร้านแล้วอาจจะเปลี่ยนใจเป็นแบบอื่นได้
โซนเลือกชุดทางร้านมีให้เลือกเยอะมากๆค่ะ จะเห็นว่ามีหลากหลายสี เจ้าสาวญี่ปุ่นสามารถเลือกใส่ในสีที่ชอบได้
ส่วนตัวโอคซังชอบสีนู้ดและสีขาวไข่ไก่แบบนวลๆทางร้านจึงหยิบชุดโทนขาวและโทนขาวไข่ไก่มาให้ดูโอคก็เจอชุดที่ถูกใจโดยทันทีค่ะ เครื่องประดับเล็กๆน้อยๆตามปกเสื้อเราก็สามารถเปลี่ยนสีได้เหมือนกันแต่โอคอย่างให้ทุกอย่างดูสะอาดสว่างประกอบกับทางร้านแนะนำว่าไม่ต้องใส่อะไรเพิ่มน่าจะดูดีที่สุดเพราะชุดของเรามาทางสีขาวๆอยู่แล้ว
4.จัดงานแต่งงานสะใภ้ไทยกับชาวญี่ปุ่น
หลายคนอาจจะเรียกว่ามันคือภาพPre weddingแต่สำหรับโอคมันคืองาน Weddingของเรา เพราะนี่คือสิ่งที่เราแพลนไว้ทั้งหมดและบอกไว้กับทางร้าน ทางร้านก็น่ารักกับเรามากๆ ทางร้านได้จัดเตรียมห้องฉายภาพไว้ใกล้ๆให้เจ้าบ่าวเปิดภาพสไลด์เพื่อเป็นการเซอร์ไพร้เจ้าสาวไว้ด้วย นาทีนั้นซึ้งสุดๆ เพราะเป็นครั้งแรกที่สามีกล้าแสดงความรักกับเราอย่างตรงไปตรงมาค่ะ ดังนั้นหากต้องการจัดงานแบบโอคซังเจ้าบ่าวต้องลองติดต่อกับทางร้านเองเกี่ยวกับการจัดการแผนเซอร์ไพร้นะคะ
ภาพตัวอย่างบรรยากาศภาพงานแต่งงานของเราจากไฟล์ที่ได้จากทางร้านโอคซังไม่ได้แต่งสีใดๆค่ะ
ต้องขออภัยหากภาพไม่ค่อยชัดเพราะโอคลดขนาดภาพลงค่ะ
ถ่ายรูปกับครอบครัว
เข้าสู่ช่วงเซอร์ไพร้ความในใจ
ร้องไห้หน้าไม่สวยเลย ต้องรีบซับน้ำตากันใหญ่
หลังจากจบการถ่ายภาพพวกเราทั้งหมดก็เปลี่ยนชุดเป็นชุดธรรมดาแต่น่ารักไปร่วมฉลองกันในร้านอาหารที่จองไว้ค่ะ มีการแนะนำตัวและพูดคุยกันในครอบครัวแบบอบอุ่นมากๆ โอคดีใจและชอบบรรยากาศแบบนี้ที่สุดเลย
ค่าใช้จ่ายทั้งหมดเท่าไร
- ค่าเช่าชุด+เช่าสถานที่ ประมาณ120,000เยน (36,000บาท)
- ค่าอาหารค่ำสำหรับ8คนประมาณ60,000เยน(18,000บาท)
- ค่าตั๋วเครื่องบินของครอบครัว4คน ประมาณ 200,000เยน (60,000บาท)
- ค่าที่พักของครอบครัว 9วัน ประมาณ 180,000เยน(54,000บาท)
- ค่ารถไปกลับจากสนามบินเข้าที่พัก+ค่าจิปาถะต่างๆ 80,000เยน(24,000บาท)
สรุปจ่ายไปทั้งหมดประมาณ 640,000เยน(ประมาณ180,000บาท) ประหยัดกว่าจัดในโรงแรมไปหลายเท่าตัวเลยนะคะแถมครอบครัวได้มาเที่ยวญี่ปุ่นด้วยนะ ใครที่กำลังวางแผนจัดงานแต่งงานในญี่ปุ่นลองรับวิธีของโอคซังไว้พิจารณาด้วยได้ค่ะ
จ่ายขนาดนี้ทำไมไม่จัดงานแต่งงานที่ไทย?
หลายคนถามโอคซังเรื่องนี้ซึ่งโอคซังก็เคยถามตัวเองมาเหมือนกันนะว่าทำไมราคานี้ถึงไม่จัดที่ไทย เพราะอย่างที่โอคได้เขียนไว้ตั้งแต่ต้นเรื่องว่าปัจจัยของเราที่สำคัญคือความเป็นส่วนตัวและเรื่องสุขภาพของแม่สามี(ที่ให้เดินทางไปไทยคงเดินทางลำบากมากๆค่ะ) ดังนั้นจึงเกิดงานที่เล็กๆแต่อบอุ่นมากๆนี้ขึ้นมาในที่สุดค่ะ
ข้อดีของการจัดงานแต่งงานเล็กๆแบบนี้คือ เราสามารถดูแลแขกที่มาได้อย่างเต็มที่เพราะมีแต่คนในครอบครัวที่เข้าใจเรามากๆ ทำให้ไม่มีอะไรติดขัดทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นและสบายๆ
บรรยากาศเบื้องหลังงานแต่งของเรา
หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับหลายๆคนที่กำลังประสบปัญหาการจัดงานแต่งงานในญี่ปุ่นนะคะ แชร์เก็บกันไว้ได้เลย
แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้าค่ะ มาตะเน้
COMMENTS