จำครั้งสุดท้ายที่เราเข้าพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำกันได้ไหมคะว่าตอนเราอายุเท่าไร โอคซังจำจนลืมไปแล้วจนไม่เคยนึกมาก่อนเลยว่าพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำจะพัฒนาไปไกลกว่าที่จินตนาการไว้มากวันนี้มีโอกาสได้เดินทางเข้าโอซาก้าแบบหนึ่งวันจึงวางแผนกับครอบครัวตัวกลมของเราที่มีสมาชิก5คนคือคุณพ่อ คุณแม่ พี่สาว น้องสาวและโอคซัง ไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคังประจำโอซาก้ากันดูว่าจะตื่นตาตื่นใจขนาดไหน
การเดินทางจากเกียวโตไปไคยูคังโอซาก้า
การเดินทางสบายมากๆค่ะ โอคซังเชื่อว่าเพื่อนๆคนไหนที่พักในเกียวโตสามารถเดินทางไปเที่ยวโอซาก้าแบบโอคซังได้ชิวๆเลยโอคซังไม่ใช่เซียนการเดินทางในโอซาก้าอาศัยgoogle map นำทางอย่างเดียวซึ่งช่วยได้มากจริงๆ ถ้าใครที่พักอยู่เกียวโตแบบโอคก่อนอื่นเพื่อนๆต้องไปเริ่มต้นที่สถานีเกียวโตกันก่อน(Kyoto station)
Kyoto station นั่ง [JR] Tokaido-Sanyo line spacial rapid Himeji >>ลงที่ Osaka station
เปลี่ยนขบวนไป Osaka Loob line ลง Bentencho station
เปลี่ยนไปนั่งรถใต้ดินสาย Chuo Line ลงที่ Osakako station แล้วเดินต่อไปประมาณ10นาทีก็ถึงพิพิธภัณฑ์ไคยูกังค่ะ
ตลอดเส้นทางไปไม่ยากเลยทุกๆที่จะมีป้ายบอกการไปOsaka Aquariumตลอด น่าจะเพราะว่าเป็นที่เที่ยวสุดฮิตกระมังคะ
ที่มา: google map
จะรู้ได้ยังไงว่าเรามาถึง Osaka Aquariumแล้ว ?
เดินไม่นานเราก็มาถึงที่หมายของเราแล้วค่ะ ให้เราสังเกตง่ายๆคือชิงข้าสวรรค์ไคยูคังอันใหญ่ยักษ์ถ้าเราเดินไปถึงชิงช้านี้เราจะเจอกับพิพิธภัณฑ์สัตว์นำ้ไคยูคังแน่ๆ แต่ถ้ายังไม่มั่นใจมองหาไม่เจอหลังจากที่เราออกจากสถานีรถไฟแล้วให้เดินตามคนไปเลยค่ะ เพราะหลายๆคนที่ลงสถานีOsakako stationนี้ ประมาณ80%จะเดินไปที่พิพิธภัณฑ์สัตว์นำ้ไคยูคังกันค่ะไม่มีทางหลงแน่นอน
หันไปอีกด้านของชิงช้าสวรรค์เราจะเจอกับอาคารสีแดงๆน้ำเงินๆไกลๆอยู่ตรงนู้น อาคารนี้คือเจ้าพิพิธภัณฑ์สัตว์นำ้ที่จะเข้าไปชมกันค่ะ
ค่าเข้าชมเท่าไร
ค่าเข้าชมโดยทั่วไปผู้ใหญ่คนละ2,300เยนค่ะ(หรือประมาณ780บาท)อยากรู้ว่าคุ้มไม่คุ้มตามไปดูด้านในพร้อมกันค่ะ
อาคารด้านนอกนี้จะมีแกนกางที่มีภาพฉายเปลี่ยนรูปแบบไปเรื่อยๆ ยิ่งในเวลากลางคืนที่พระอาทิตย์ตกดินไปแล้วมุมนี้ก็ถือว่าเป็นมุมถ่ายภาพที่สวยมากๆจะพลาดถ่ายภาพตรงนี้ไม่ได้เลย แต่เสียดายที่โอคซังอยู่ที่นี่ไม่ถึงจนเวลาค่ำจึงไม่ได้นำภาพมาให้ชม ถ้าใครที่ได้ถ่ายมุมนี้ในเวลากลางคืนมาด้วยจะส่งมาแชร์ให้ดูกันบ้างก็ไม่ว่ากันนะคะ
ซื้อบัตรเข้าชมกันครบทุกคนแล้วนะตื่นเต้นจัง สังเกตดีๆที่บัตรแต่ละคนมีรูปไม่เหมือนกันอีกด้วยนะใครจะได้อะไรบ้างเอ่ย โอคซังได้รูปเข้าฉลามวาฬหล่ะพระเอกของที่นี่เลยนะ
รีวิว ไคยูคัง
เข้ามาในโซนแรกก็ต้องตกตะลึงที่ทางพิพิธภัณฑ์นำป่าย่อมๆมาวางไว้ในพื้นที่ปิดได้อย่างสวยงาม แต่กลิ่นอาจจะไม่พึงประสงค์เท่าไหร่ เพราะที่นี่คือบ้านน้อยของตัวนากนั่นเอง กลิ่นที่คล้ายๆห้องน้ำสาธารณะนี้คือกลิ่นเอกลักษณ์ตัวนากค่ะไม่ต้องมองหาห้องน้ำให้เสียเวลา แต่วันนี้โอคซังมาเช้าไปหน่อยจึงไม่ได้เห็นตัวนากมาเล่นน้ำให้ชม เหล่านากน้อยยังนอนหลับปุ๋ยกันอยู่เลย
ป่าเขียวสวยที่ได้จำลองสภาพแวดล้อมแบบธรรมชาติจริงๆมาไว้ในพื้นที่ปิดได้แบบลงตัว
เหล่านากกำลังนอนหลับ โอคซังถ่ายภาพมาให้ชมได้เพียงด้านหลังน้องๆไม่ยอมตื่นกันเลยนะ วันนี้โอคซังมากับคุณพ่อผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ป่าคุณพ่อแอบกระซิบว่า “ดูสิเจ้านากพวกนี้เหมือนว่าสุขภาพไม่ค่อยดีนะ เพราะว่าขนไม่เงาเท่าไร” แบบนี้ถ้าจะดูว่านากสุขภาพดีไหมต้องดูจากขนแล้วนะยิ่งเงาสวยยิ่งสุขภาพดี
อควาเรี่ยมยักษ์!! เจอฉลามวาฬครั้งแรกในชีวิต
ลืมภาพอควาเรี่ยมในความทรงจำเด็กๆของโอคไปเลย พอก้าวขาเข้ามาข้างใน ยิ่งเดินเท้าลงไปด้านล่างเรื่อยๆยิ่งตื่นตาตื่นใจ ที่นี่ไม่ใช่เพียงตู้แสดงปลาธรรมดาเท่านั้น แต่เป็นการจำลองระบบนิเวศใต้ท้องทะเลยักษ์มารวมไว้ในอควาเรี่ยมยักษ์ให้เราชม บอกแบบนี้อาจจะยังเห็นภาพไม่ชัดเจน เพื่อนๆลองจินตนาการว่าตัวเองคือปลาหนึ่งตัวที่กำลังว่ายน้ำอยู่ในทะเลแล้วเจอปลาอื่นๆอีกมากมายหลายแบบ เราจะรู้สึกเหมือนเราตัวเล็กลงไปเหลือนิดเดียว (ขอหางหน่อยจะแปลงร่างเป็นเงือกแบบนั้นเลย)
ทุกคนดูตื่นเต้นเป็นพิเศษที่มุมนี้มีโลมาหลายตัวน่ารักกำลังว่ายน้ำเล่น พรางๆโยนลูกบอลกันไปมา โอคซังถ่ายภาพมาให้ดูไม่ทันจริงๆเพราะเคลื่อนไหวกันเร็วมาก เป็นความทรงจำที่น่ารักและประทับใจอีกหนึ่งอย่างค่ะ
เดินมาเรื่อยๆต้องตกใจค่ะที่เจอกับ ฉลามวาฬ! ไม่ใช่แค่ตัวเดียวนะคะแต่มาถึง2ตัว จะมีที่ไหนที่เอาฉลามวาฬมาใส่ไว้ในตู้ว่ายไปว่ายมาให้เราชมแบบนี้ มีแต่ที่นี่หล่ะค่ะ เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เจอกับฉลามวาฬระยะประชิตตัวโดยที่ตัวไม่เปียกสักนิด
ใครที่คิดว่าฉลามวาฬทั้งสองตัวจะเหงาหรอคะ? ไม่มีทางเพราะมีเพื่อนๆมากมายว่ายอยู่ในตู้เดียวกัน หลากหลายชนิดจนนับไม่ถ้วน ถ่ายรูปได้ไม่ครบเลย
ปลาเล็กปลาน้อยจะพยายามว่ายรวมกันเป็นกลุ่มให้ดูเหมือนเป็นปลาใหญ่ ส่วนปลาอื่นๆก็ว่ายๆไปมาแบบที่ไม่มีกัดหรือตีกันเลย บางครั้งเราอาจจะเห็นนักประดาน้ำลงมาทำความสะอาดหรือเล่นกับปลาให้เราดูแบบใกล้ๆจึงทำให้รู้ว่าปลาพวกนี้เชื่องมากๆค่ะ มีจังหวะนึงที่นักประดาน้ำกำลังลูบหัวกระเบนอยู่ แต่ก็มีปลาอีกตัวว่ายมาข้างๆเอาตัวมาแนบ(เห้ยโอคซังงงเหมือนน้องหมาเลยค่ะ)มาอ้อนขอให้ลูบบ้าง พอโดนลูบเข้าหน่อยก็นอนหลับมันตรงนั้นไปเลย
โลกของแมงกะพรุน
บางครั้งเราอาจจะเจอมุมแสดงโชว์ปลาเล็กปลาน้อย ที่โอคซังชอบมากที่สุดคือปลาการ์ตูนนีโม่น่ารักๆสองตัวตรงนี้ เหมือนว่าจะเป็นที่นิยมของเด็กไม่น้อยเลยค่ะ
เดินผ่านมาอีกหลายโซนก็ได้เวลาลงสู่โลกใต้ทะเลที่โอคซังขอเรียกว่าโลกของแมงกะพรุนเพราะโซนนี้มืดมากๆค่ะ กล้องมือถือของโอคถ่ายภาพมาได้น้อยมากจนต้องขอรูปจากกล้องพี่สาวมาให้ชมเลย
ประการังที่ไม่ทราบชื่อ ไม่รู้ว่าสิ่งนี้จัดเป็นดอกไม้ทะเลหรือสัตว์นะคะใครรู้ช่วยทีรู้แค่ว่ามันสวยมาก
เจอแมงกะพรุนตัวน้อยน่ารักมาก
และยังมีแมงกะพรุนอีกหลายแบบ เรียกได้ว่าอยู่ข้างในนี้เราจะลืมเวลาไปเลยเพราะสวยตรึงตาตรึงใจมากๆ ดูนาฬิกาอีกทีก็4โมงเย็นแล้วก่อนกลับขอแวะคาเฟ่หาอะไรทานสักนิดก่อนกลับสักหน่อยดีกว่า
โอคซังสั่งอะไรไปจำไม่ได้จริงๆค่ะนึกแล้วขำ ชี้ๆอย่างเดียวสั่งมาเยอะแต่ถ่ายภาพมาแค่สองอย่าง ราคาอาหารในนี้อยู่ที่260เยนขึ้นไปอร่อยทุกอย่างอย่างเลยรสชาติไม่จกตา
ทริปวันนี้สนุกสนานกว่าทริปอื่นๆเป็นพิเศษเพราะโอคซังมาเที่ยวกับครอบครัวที่ไม่ได้เที่ยวด้วยกันแบบนี้มานานหลายปีแล้วค่ะ ใครที่มาเที่ยวที่นี่โอคซังแนะนำเป็นอย่างยิ่งให้มากันเป็นครอบครัวจะสนุกสนานมากๆ ยิ่งมีเด็กๆมาด้วยเด็กๆจะต้องกรี๊ดตื่นตาตื่นใจสุดๆเลย
แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้านะคะ มาตะเน้
COMMENTS