SilverKris Lounge สิงคโปร์แอร์ไลน์ที่สนามบินฮ่องกง รีวิวที่นึกว่าโรงอาหาร!!

สิงคโปร์แอร์ไลน์ชื่อนี่มีแต่ความอร่อยเห็นว่าจะเป็นจริงดั่งว่าด้วยการันตีการเป็นสายการบินห้าดาวที่บริการดีที่สุดที่หนึ่งของโลก โอคซังรู้สึกดีใจแบบสุดขีดที่ได้มาเที่ยวเล่นที่สนามบินฮ่องกง(Hongkong Airport)แล้วได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมชมห้องรับรองหรือเลานจ์SilverKris Loungeของสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์( Singapore Airlines) ขนาดว่าบนเครื่องยังบริการดีมาก[สิงคโปร์แอร์ไลน์ที่นั่งชั้นประหยัดEconomy Class Singapore Airlinesญี่ปุ่น-สิงคโปร์[รีวิว]]แล้วในห้องรับรองประจำสนามบินจะขนาดไหน

ห้องรับรองสายการบินอื่นๆในเครือStar Alliance ในสนามบินฮ่องกงที่เกี่ยวข้อง

• Thai Airways Royal Orchid lounge เลานจ์การบินไทย สนามบินฮ่องกง ที่สุดอาหารเพียบ

SilverKris Lounge สิงค์โปร์แอร์ไลน์อยู่ไหน?

ก่อนหน้านี้โอคซังได้เคยเขียนรีวิวเกี่ยวกับห้องรับรองสิงคโปร์แอร์ไลน์ที่สนามบินสุวรรณภูมิไว้แล้ว[ห้องรับรองเลาจน์สิงคโปร์แอร์ไลน์SILVER KRIS LOUNGE สนามบินสุวรรณภูมิ[รีวิว]]ซึ่งโดยรวมค่อยข้างประทับใจมากจนเวลาที่เดินทางออกต่างประเทศหลายๆที่จะต้องคอยมองหาเลานจ์ของสายการบินนี้เข้าอยู่เสมอถึงแม้ว่าเลานจ์จะอยู่ไกลจากประตูขึ้นเครื่องแค่ไหนก็ไม่สนใจค่ะจะต้องไปให้ได้เลย สำหรับเลานจ์ของสิงคโปร์แอร์ไลน์ในสนามบินฮ่องกงจะอยู่ที่ชั้นเดียวกันกับเกตขึ้นเครื่องค่ะอยู่ในระหว่างทางช่วงเกต60 กับ80 เปิดเวลา6:30น.ค่ะ

เราจะเจอกับป้ายทางเข้าสีทองสวยงามอยู่ทางนี้เขียนไว้ว่า SilverKris Lounge  ใครที่มีบัตรทองการบินไทยเข้าได้สบายๆค่ะรวมถึงผู้ที่ถือบัตรกลุ่มStar Alliance goldทั้งหลายเช่นกัน

กลุ่มสมาชิกบัตรทองStar Alliance gold ในเครือสายการบินข้างต้นเข้าได้สบายมากๆค่ะ

เลานจ์นี้ดีไหม

เมื่อเข้ามาแล้วเราจะเห็นว่ามีห้องเล็กๆอยู่ด้านหลังเคาน์เตอร์ห้องนี้เป็นห้องที่มีเก้าอี้นั่งทั่วไปอยู่ใกล้ประตูทางออกมากที่สุด สะอาดและปลอดบุหรี่ โอคซังสังเกตว่าในห้องนี้คนที่นั่งอยู่ส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุค่ะ เดินเข้าออกประตูหลักสบายหน่อย

แต่เราจะไม่นั่งกันตรงนี้ค่ะเราอยากได้ที่นั่งที่ใกล้อาหารมากกว่านี้ โอคซังเป็นคนหิวโหยค่ะ เดินเข้าไปด้านในกันค่ะ

เจอกับบาร์เครื่องดื่มที่มีบาร์เทนเดอร์บริการชงให้เราแบบสดๆ โอคซังคิดว่าสิงคโปร์แอร์ไลน์รักษามาตรฐานการบริการตรงนี้ได้ดีเพราะโอคซังเห็นว่าที่เลานจ์สิงคโปร์แอร์ไลน์ในสนามบินสุวรรณภูมิก็มีบาร์เครื่องดื่มแบบนี้เหมือนกันค่ะ [ห้องรับรองเลาจน์สิงคโปร์แอร์ไลน์SILVER KRIS LOUNGE สนามบินสุวรรณภูมิ[รีวิว]]

โซนที่นั่งใกล้บาร์อาหารจะเป็นเก้าอี้ที่ถูกออกแบบด้วยโทนอุ่นให้รู้สึกหิวจนกระเพาะทำงานและยังนั่งทานอาหารได้สบายไม่ต้องก้มตัวตัดจนเมื่อย สายกินต้องนั่งตรงนี้ค่ะ

ถ้าใครที่ไม่ชอบความวุ่นวายจะเลือกที่นั่งโซนโซฟาก็ได้ นั่งสบายๆไม่ติดโต๊ะอาหาร

ข้างๆเก้าอี้นั่งมีจุดชาร์ตไฟให้เราด้วย แบบนี้ไม่ต้องกลัวว่าแบตมือถือหรือคอมพิวเตอร์หมดค่ะมีให้มทุกที่นั่งในโซนโซฟาค่ะ

สำหรับอาหารของที่นี่อาหารหลักจะเป็นอาหารเอเชียแล้วแล้วแซมด้วยอาหารแบบตะวันตกเล็กน้อย

ปีกไก่ทอดตรงนี้น่าทานมากๆแต่โอคซังจัดฟันค่ะทานลำบากสุดขีดเลยขอบาย

นี่คือต้มเต้าหู้หรือแกงเต้าหู้อะไรไม่รู้อร่อยดีค่ะ ทานแล้วรู้สึกสุขภาพดี เหมือนว่าต้องทานคู่กับข้าวสวยด้วยถึงจะอร่อย

ถ้าคิดว่าข้าวมีไม่พอยังมีให้อีกเป็นถังค่ะ บ่งบอกว่าคนเอเชียชอบทานข้าวมากขนาดไหน

หมูปิ้งไก่ทอด ขนมปังไม่อั้นค่ะ หมดแล้วเติมใหม่แบบรวดเร็ว

เครื่องดื่มมีมากมายให้เลือกค่ะ แต่ห้ามนำออกจากเลานจ์นะคะ ทานได้ฟรีไม่อั้นเฉพาะในนี้ค่ะ

น้ำผลไม้สดก็มีค่ะ

เครื่องเคียงสุดประหลาด

ซอสพริก!!! โอคซังชอบโซนน้ำจิ้มมากๆ ไปมาหลายเลานจ์ไม่เคยเจอที่ไหนให้น้ำจิ้มเคียงแบบนี้เลย เป็นการเอาใจชาวเอเชียที่ถูกจุดมาก คนไทยแบบเราก็แฮปปี้มาก แต่ถ้ามีน้ำพริกน้ำปลามาด้วยนี่จะอึ้งค่ะแต่ที่นี่ยังไม่ถึงขั้นมีน้ำปริกน้ำปลาค่ะ

เซตไข่ต้ม ถั่ว แบบนี้ก็มีถ้าใครงงว่ามันคืออะไรไม่ต้องสนใจค่ะอยากกินก็ตักได้เลย แต่คิดว่ามันคงคืออาหารสิงคโปร์กระมัง โอคซังจำได้ตอนที่นั่งไฟล์ทสิงคโปร์แอร์ไลน์ก็เจออาหารแบบนี้บนเครื่องมันอร่อยมากค่ะ

มุมสลัดบาร์และของหวานสุดแสนน่ารัก

เดี๋ยวนะน้ำเต้าหู้หรอ??? เต้าหวย อะไรสักอย่างค่ะ เห็นน่ารักดีจึงถ่ายรูปมา

หยิบจานจากตรงไหน!!!! หาจานไม่เจอ!!!

ตอนแรกโอคซังยืนงงวนซ้ายวนขวาหาจานไม่เจอจึงเดินกลับไปที่โต๊ะตั้งหลักแล้วดูว่าคนเขาหยิบจานตรงไหนกัน จานอยู่ข้างใต้บาร์อาหารนี่เองหาตั้งนาน..

หลังจากที่นั่งทานแบบหนุบหนับโอคซังก็แอบสงสัยว่านี่คือเลานจ์หรือโรงอาหารคนเยอะแบบเยอะมากๆๆๆๆๆ เดินตักอาหารแทบจะตัวชนกันแย่งกันกินดั่งสายฟ้าฟาด แต่เลานจ์นี้ถือว่าเป็นเลานจ์ที่ดีอีกเลานจ์นึงสังเกตจากจำนวนคนที่เข้ามาค่ะ นอกจากเลานจ์จะกว้างมากแล้วอาหารก็จัดเต็มจัดแน่นมีให้ทานแบบไม่อั้นกันฟรีๆ ทำให้การเดินทางในครั้งนี้อิ่มตลอดทางไม่มีคำว่าหิวค่ะ

แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้าค่ะ

มาตะเน้