โอคซังได้มีโอกาสได้เดินทางไปยังสนามบินฮ่องกง(Hongkong Airport)ที่รู้สึกว่าคึกคักคล้ายกับสนามบินสุวรรณภูมิ(Suvarnabhumi Airport)ของเราเลยค่ะ นอกจากที่จะตื่นเต้นกับสนามบินที่เหมาะกับการช้อปปิ้ง ใครที่ถือสถานะบัตรทองการบินไทยหรือสถานะStar Alliance Goldยังมีสิทธิ์เข้าใช้ห้องรับรองสายการบินแห่งชาติไทยในสนามบินนี้อีกด้วย สนามบินฮ่องกงว่าคึกคักแล้วห้องรับรองจะขนาดไหนไปชมกันค่ะ
ห้องรับรองการบินไทยนี้อยู่ที่ไหน
หากว่าเพื่อนๆเพิ่งเข้ามาในสนามบินฮ่องกงเพื่อนๆจะต้องขึ้นลิฟมาที่ชั้น7แล้วจะเห็นสัญลักษณ์ทางเข้าเลานจ์ได้อย่างชัดเจน จะอยู่ติดกับ Plaza Primium Longe ซึ่งจะอยู่ทางโซนประตูเกตที่40ค่ะ
จะเห็นว่ามีป้ายบอกทางเข้าอยู่ข้างกันอย่างชัดเจนค่ะ
ใครมีสิทธิ์เข้าใช้บ้าง? ระวังThai smile เข้าใช้ไม่ได้นะ !
สำหรับผู้มีสิทธิ์เข้าใช้บริการเลานจ์การบินไทยในสนามบินฮ่องกงก็เหมือนกันกับเลานจ์อื่นๆของการบินไทยทั่วไปนั่นก็คือ 1.ผู้ที่ซื้อตั๋วชั้นธุรกิจ(Business Class)ขึ้นไป 2.ผู้ที่เป็นสมาชิกStar Alliance Gold โดยไม่จำกัดว่าจะซื้อตั๋วชั้นประหยัดหรือไม่ก็มีสิทธิ์เข้าใช้ได้ตลอด เพียงแต่ต้องซื้อตั๋วเครื่องบินในเที่ยวนั้นของสายการบินเครือStar Allianceค่ะ
มีทั้งThai Royal silk Longeและ Thai Royal First loungeอยู่ในที่เดียวกันหรอ?
ในขณะที่เรากำลังใช้ตั๋วในการเชคอินยืนยันสิทธิ์การเข้าใช้เลานจ์ เราจะเห็นว่าในเลานจ์นี้จะแบ่งทางเข้าเป็น2 โซนคือ Royal First สำหรับผู้โดยสารกลุ่มเฟิร์สคลาสค่ะ ที่โอคซังไม่ได้เข้าไปแต่จากการมองด้วยสายตาเหมือนจะเอาแค่ฉากมากั้นเฉยๆนะ ไม่รู้ข้างในนั้นมีอะไรบ้าง
และ Royal Silk สำหรับผู้โดยสารBusiness Classและกลุ่มสมาชิกStar Alliance Goldค่ะ เราจะเข้าทางนี้กันค่ะ
ทำไมถึงเลือกที่นั่งที่ถูกใจไม่ได้นะ
เลานจ์นี้นอกจากจะเปิดโล่งแบบโอเพ้นแอร์สุดๆใช้แอร์ร่วมกับสนามบินโดยไม่ได้มีการปิดเป็นห้องส่วนตัวดังนั้นบรรยากาศจึงดูโล่งโปร่งเป็นพิเศษ รวมถึงขนาดเลาจน์ที่กว้างมากมีหลายโซนให้เลือกนั่ง ที่นั่งมีสีสันสดใสปลุกสายตาให้ตื่นได้จากความง่วง สลัดภาพความหรูหราออกไปเพราะใช้สีสันที่ชวนหิวกลายเป็นสนุกขึ้นและอยากจะรีบไปตักอาหารมาทานไวๆค่ะ
ถ้าเดินเลยเข้ามาอีกหน่อยจะเจอกับที่นั่งที่ติดริมระเบียงสามารถเห็นวิวลานจอดเครื่องบินได้ง่ายมากโอคซังกำลังคิดอยู่ค่ะว่าจะนั่งแถวนี้ดีไหมนะ
แต่ถ้าไม่ชอบความวุ่นวายอยากพักผ่อนสายตาแนะนำเป็นมุมสงบตรงนี้ที่กั้นห้องสีน้ำตาลให้แบบเรียบร้อยด้านในมีเก้าอี้นวดให้ด้วยนะ เมื่อยมาขนาดไหนเราช่วยได้
เมื่อมองลงไปข้างล่างก็จะเห็นวิวแบบนี้ค่ะ โอคซังเพิ่งเดินผ่านมาเมื่อกี้นี้เอง
มุมทำงานก็มีบริการนะคะ ใครที่ทำงานค้างคาอยู่มานั่งทำงานตรงนี้ได้ แต่อย่าทำงานจนลืมเวลาเรียกขึ้นเครื่องหล่ะค่ะ
เพราะว่ามีที่นั่งที่หลากหลายมากๆโอคซังเลือกไม่ถูกค่ะนั่งแล้วย้ายที่นั่งบ่อยมากค่ะ โอคซังแนะนำว่าใครที่ขี้ร้อนมากๆอาจจะนั่งติดริมหน้าต่างไม่ได้เพราะแดดแรงจริงๆแต่แสงสวยค่ะเวลาถ่ายรูปดูฟรุ้งฟริ้งสุดๆ
ได้ยินว่าอาหารในเลานจ์นี้อร่อย จริงหรือ?
จากการเดินสำรวจคร่าวๆอาหารในเลานจ์นี้ค่อนข้างจัดเต็มแบบกลัวผู้โดยสารไม่อิ่ม โดยเป็นอาหารสไตล์ไทย- จีน -ฝรั่ง จัดให้ครบแบบไม่ต้องกลัวว่าเพื่อนๆจะทานไม่ได้โอคซังเชื่อว่ามันจะต้องมีสักเมนูนึงที่เพื่อนๆทานได้แน่ๆ
เธอๆเราอยากกินลาบ
ได้สินี่ไงจ้ะ
มีอะไรให้เรากินอีกมั้ยอ่ะขออาหารไทยเน้นๆเลย
ในนี้เรามีส้มตำมาให้เธอเพิ่ม
อันนี้เป็นแกงมัสมันนะ
โห เยอะจังเลยเห็นว่ามีอาหารฝรั่ง กับอาหารจีนด้วยใช่มั้ย
ผัดผักก็อร่อยนะจ้ะ เรากินประจำเลย เราว่ามันดีต่อสุขภาพ
จนมจีบเนื้อเราก็ชอบมาก เวลาเรามาฮ่องกงทีไรก็ต้องกินทุกที
ซาลาเปาก็อร่อยมาก เพราะว่าอุ่นร้อนตลอดเวลาเนื้อแป้งเลยนุ่มมาก
ถ้าเธออยากหาอะไรทานเล่นรองท้องพวกขนมปังกรอบด้านนี้ก็อร่อยดี
น้ำดื่มก็จัดให้เพียบเลือกได้ตามสบายเลย แต่ห้ามเอาออกข้างนอกนะเธอ กินฟรีได้ในเลานจ์นี้เท่านั้นนะจ้ะ
ผลไม้อาจจะดูเละแทะไปหน่อยเพราะคนตักกันแบบเมามันมาก
ขนมหวานนี้เราก็ไม่รู้มันคืออะไร ดูเหลือเยอะจัง
หิวเลยอ่ะ เราไปตักอะไรมากินก่อนดีกว่าเดี๋ยวจะกินไม่ทันเธอ
โอคซังตักอาหารมาแบบเต็มๆเพราะหิวตาลายสุดๆ ตอนนี้อาหารอะไรที่ฟรีกินหมดค่ะไม่สนอะไรทั้งนั้นแล้วค่ะ เพื่อนสามารถเลือกตักได้ตามใจจะตักแยกจานหรือตักรวมจานมายังไงก็ได้เพราะอาหารที่นี่เป็นแบบบุฟเฟ่ต์ทานได้ไม่อั้น
โอคซังตักรวมจานกันมาแบบยาจกคนหิวในจานมีข้าวพูน2ทัพพี ไก่มีตบอล ข้าวโพดที่อยู่ในโซนสลัดบาร์ ลาบที่อร่อยมากบอกแบบไม่อวย กุ้งสับพันอ้อยหวานหอม ทุกอย่างอร่อยลงตัว
กินเข้าไป ง่ำๆ
ต่อถ้วยที่สองแบบไม่อายฟ้าอายดิน เพราะว่ามันอร่อยจริงๆค่ะ
จกลาบหมูมาซะเยอะ หลังทานเสร็จอย่าลืมแวะไปแปรงฟันนะคะเพื่อลมหายใจหอมสดชื่นตลอดทาง ส่วนแปรงสีฟันนั้นพกมาเองค่ะได้ฟรีมาจากที่โรงแรมที่นอนเมื่อวาน
รีวิว ความรู้สึก
ครั้งหน้าโอคซังจะพาไปเที่ยวที่ไหนอีกอย่าลืมติดตามอ่านให้กำลังใจกันด้วยนะคะ
เจอกันในบทความหน้าค่ะ
มาตะเน้
COMMENTS