แรกๆที่โอคซังมาอยู่ญี่ปุ่นมีเงินเท่าไรใช้หมดค่ะเพราะอะไรก็น่าซื้อไปหมด ของร้านร้อยเยนก็ซื้อ เสื้อผ้าก็ซื้อ สุดท้ายห้องพักเต็มต้องขนทิ้งไปเยอะ วันนี้โอคซังจึงจะมาแชร์มีธีประหยัดแบบแม่บ้านญี่ปุ่นสไตล์โอคซังต่างด้าวชาวไทยที่เรียนรู้เอง บางอย่างเพื่อนๆอาจจะรู้กันอยู่แล้ว บางอย่างอาจจะยังไม่รู้ มาดู5วิธีที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในบ้านไปพร้อมๆกันค่ะ
1.ซื้ออาหารสดตอนลดราคาวันต่อวันไม่ซื้อตุน
โดนปกติแล้วคนส่วนใหญ่จะคิดว่าการซื้อตุนจะทำให้ประหยัดค่าอาหารไปได้เยอะยิ่งช่วงลดราคาต้องรีบซื้อตุน แต่สำหรับโอคซังวิธีนี้ไม่ได้ผลค่ะ นอกจากจะซื้อมาตุนเกินจำนวนที่ทานแล้วยังเหลือคาตู้เย็น หลบอยู่ในมุมหลืบที่มองไม่เห็นจนหมดอายุ จนสุดท้ายต้องทิ้งไปอย่างน่าเสียดาย โอคซังจึงแนะนำเพื่อนๆซื้อผัก หมู ไก่ต่างๆตามโปรโมชั่นลดราคาในแต่ละวัน ทำพอดี2มื้ออาหารจะช่วยประหยัดได้มากและไม่มีผักเหลือติดตู้เย็นค่ะ เมื่อเราทำแบบนี้เรื่อยๆเราจะเริ่มสนุกกับการดูกระดาษโปรโมชั่นในใบแนะนำสินค้าของซุปเปอร์มาเก็ต ลุ้นว่าในแต่วันเราจะได้ทานอะไรบ้างเป็นการสร้างสมดุลการทานอาหารที่หลากหลายให้ครอบครัวด้วยค่ะ โดยอาหารลดราคาจะมีจัดลดหลายเวลา ตั้งแต่บ่าย 13:00 15:00หรือช่วง 18:00 ก็มี แล้วแต่ซุปเปอร์นั้นๆให้เราสังเกตเวลาลดราคาให้ดีค่ะ
2.ไม่ซื้อของใช้ที่ไม่จำเป็น
โอคซังเป็นคนที่บ้าซื้อของมากๆ แต่พออยู่ในญี่ปุ่นไปนานๆของเริ่มเต็มบ้านจนไม่มีที่เก็บ ยิ่งในช่วงย้ายบ้านต้องจ่ายค่าขนย้ายที่มหาศาล100,000เยนขึ้นไป จึงรู้สึกว่ามันสิ้นเปลืองมากๆ ของใช้เมื่อไม่ใช้แล้วถ้าเราต้องการทิ้งเราไม่สามารถทิ้งลงถังขยะได้เลยเหมือนที่ไทย แต่เราต้องทำการคัดแยกขยะก่อน ขยะชิ้นใหญ่ๆเช่นเครื่องออกกำลังกาย จักรยาน ตู้ เครื่องซักผ้า ถ้าโอคซังต้องการทิ้งต้องโทรบอกร้านของมือสองให้รับไป ในบางครั้งร้านรับซื้อของมือสองกลายเป็นมาเก็บเงินจากเราเพิ่มอีกต่างหากเพราะเอาไปก็ขายไม่ได้แต่ถ้าอยากกำจัดต้องจ่ายเงิน ขยะที่เราจะทิ้งมีมูลค่าทั้งหมด ดังนั้นโอคซังจึงอยากแนะนำแม่บ้านมือใหม่หรือน้องๆนักศึกษาหากใครที่ไม่อยากรับค่าใช้จ่ายในการกำจัดของหรือขนย้ายหลายหมื่นเยน อย่าซื้ออะไรที่ไม่จำเป็นค่ะ
3. ทำอาหารทานเองให้บ่อยที่สุดโดยเฉพาะข้าวกล่อง
อาหารในญี่ปุ่นราคาเริ่มต้นส่วนใหญ่ที่500เยนขึ้นไป ถือว่าราคาค่อนข้างสูงค่ะ แต่ถ้าเราทำอาหารทานเองต้นทุนต่อมื้อต่อคนจะประหยัดมากกว่า ดังนั้นจึงไม่แปลกใจที่คนญี่ปุ่นจะทำข้าวกล่องโอเบนโตะหิ้วไปทานที่ทำงานกันตอนกลางวันเป็นประจำค่ะ โอคซังก็ทำให้ตัวเองและสามีเกือบทุกมื้อ เพื่อนๆโอคซังก็เช่นกันค่ะชอบแชร์อาหารเบนโตะกันที่ทำงาน ชาวญี่ปุ่นเมื่อล้อมวงโต๊ะเปิดกล่องอาหารเบนโตะจะชอบเปิดบทสนทนาเรื่องอาหารกันค่ะ ว่าคืออะไร ทำยังไง เหมือนได้ความรู้ในการทำอาหารไปด้วย
4. หมั่นทำความสะอาดบำรุงบ้านตลอดเวลา
ด้วยสภาพอากาศของบ้านเมืองญี่ปุ่นบางครั้งก็หิมะตก ฝนตก แดดออก หนาวร้อน ต่างกันไปในแต่ละฤดูทำให้สภาพแวดล้อมภายในบ้านเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เราเหล่าแม่บ้านจะต้องคอยทำความสะอาดบ้านให้ปลอดภัยสะอาดอยู่เสมอ ถ้าหากเป็นบ้านของเราเองคงบำรุงรักษาได้ไม่ยากไม่ต้องกังวลมากมาย แต่ถ้าเป็นบ้านเช่าเราอาจจะต้องเสียเงินค่าซ่อมแซมตอนที่เราย้ายออกเยอะค่ะ(โอคซังโดนมาแล้วค่ะเพราะเราไม่รู้จริงๆวิถีชีวิตต่างจากตอนอยู่ไทยเกินไป แต่ปัจจุบันสังเกตบ้านตลอดทุกตารางนิ้วค่ะเพราะเช่าเขาอยู่)เช่น
- ในหน้าหนาวบริเวณขอบหน้าต่างชอบเกิดเชื้อราเพราะเกิดไอน้ำจากการที่อากาศภายนอกเย็นจัดแต่ภายในห้องเราอุ่นจากมิเตอร์ความร้อน ดังนั้นเราจะต้องคอยสังเกตให้ดีเช็ดทำความสะอาดเสมอ
- ท่อระบายน้ำทิ้งห้ามเทเศษอาหารและน้ำมันลงท่อเด็ดขาดอาจทำให้ท่อสกปรกอุดตัน ถ้าจะทิ้งต้องใส่ตะข่ายแยกกาก ส่วนของน้ำมันให้ชุบทิชชู่ทิ้งไปเป็นวิธีสะดวกสุด หรือใส่น้ำยาแช่แข็งน้ำมันแล้วทิ้งก็ได้ค่ะ
- พื้นที่เป็นไม้เงาต้องลงแว็กซ์ทุกเดือนให้เงาตลอดเวลา เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียค่าซ่อมแซมทีหลังเยอะค่ะ เป็นต้น
5. ซื้อเสื้อผ้าที่ยับยากหรือไม่ต้องรีดบ่อยใช้
เรื่องนี้คนไทยหลายคนอาจจะมองข้าม เวลาที่เราซื้อเสื้อผ้าให้หลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่ยับง่ายค่ะ เพราะเมื่อเราซักแล้วก็ต้องมารีด รีดทุกสัปดาห์ก็เปลืองค่าไฟมาก เสื้อผ้าที่โอคซังใส่ส่วนใหญ่จึงเป็นแบบยับยากเกือบทั้งหมด ที่รีดอยู่จริงๆตอนนี้ก็มีแค่เสื้อผ้าชุดทำงานของสามีค่ะ เสื้อผ้าที่ยับยากที่โอคซังซื้อให้สามีส่วนใหญ่ซื้อมาจากยูนิโคล่ถูกดีและยับยากจริง ทำแบบนี้เชื่อเถอะค่ะว่าประหยัดได้จริง
แล้วครั้งหน้าโอคซังจะมาแชร์วิธีถนอมอาหารและวิธีทำความสะอาดบ้านแบบมินิมอลกันบ้างไว้ติดตามกันไปเรื่อยๆนะคะ
โอคซังขอขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งให้กันมาเสมอ
แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้าค่ะ
ฝากติดตามช่องยูทูปของโอคซังด้วยค่ะเพิ่งเริ่มทำและจะพยายามพัฒนาไปเรื่อยๆค่ะ มาตะเน้
ช่องยูทูป : https://www.youtube.com/channel/UCBCGi6FwAoyp3irxoGu0S0w
instagram : https://www.instagram.com/okusanlife/
เฟสบุค เพจ : https://www.facebook.com/DugongJapan/
COMMENTS