วันนี้โอคซังจะพามาเที่ยววัดนินนาจิ(Ninnaji,仁和寺)วัดทางตอนเหนือของเกียวโตประเทศญี่ปุ่น วัดนี้อยู่ไม่ห่างจากสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆมากนัก จะเป็นวัดที่อยู่ใกล้วัดทองคิงคะคุจิ วัดเรียวอันจิ และเดินทางจากปราสาทนิโจไปได้แบบง่ายมากๆ วัดนินนาจินี้มีชื่อเสียงเรื่องความสวยงามในช่วงซากุระและฤดูกาลใบไม้เปลี่ยนสีมากๆ ใครที่ได้เดินทางท่องเที่ยวเกียวโตแล้วลองแวะเข้าชมความงามของสวยหินแบบญี่ปุ่นของวัดนี้กันได้ค่ะแล้วจะรู้สึกผ่อนคลายมีความสุขแบบบอกไม่ถูกแน่ๆ
ประวัติวัดนินนาจิ
วัดนินนาจิเป็นเหมือนโรงเรียนฝึกตนของนักบวชในสมัยก่อนค่ะตั้งแต่ปี ค.ศ.888 ยาวนานมากกว่าพันปีแล้วค่ะจนมาถึงปัจจุบันก็ยังเห็นว่าวัดนี้เป็นที่นั่งทำสมาธิหรือมีฝึกตนกันอยู่ นอกจากนี้วัดนินนาจิยังรับหน้าที่เก็บสมบัติสำคัญของชาติไว้ในวัดด้วย จนในตอนหลังวัดนินนาจิได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก (World heritage)จากUNESCO
การเดินทางไปวัดนินนาจิ
การเดินทางไปวัดไม่ยากค่ะ หากเดินทางโดยตรงมาจากสถานีเกียวโตให้นั่งรถสาย26 ลงที่ป้ายOmuroninnajiได้เลยค่ะ แต่สำหรับใครที่เดินทางมาจากที่อื่นๆให้นั่งรถบัสสาย10 26 หรือ 59 เพื่อนั่งมาลงที่Omuroninnajiได้เช่นกันค่ะ
วันนี้โอคซังเลือกนั่งสาย26ไปค่ะ
มาถึงหน้าวัดกันแล้วค่ะ
จะเห็นว่าหน้าวัดมีรถผ่านหลายแบบเลยค่ะ ทั้งบัสสาย10 26 59 หรือจะเป็นแท็กซี่ก็มีค่ะ
ค่าเข้าชมวัดนินนาจิ
วัดนินนาจิจะแบ่งเป็น2โซนคือ
- โซนสวน และภายในอาคาร-เสียเงินค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ราคา500เยน เด็กราคา300เยน
- โซนอาคารฝึกตอนและหอสมุด-ฟรีค่าชม(แต่สามารถเดินชมได้แค่บริเวณโดยรอบอาคาร)
เวลาเปิดให้บริการ
มีนาคม-พฤศจิกายน 9:00-17:00น.(แต่ถ้าเป็นช่วงฤดูซากุระเปิดให้บริการ8:00-5:00น.)
ธันวาคม-กุมภาพันธ์ 9:00-16:30น.
เมื่อเข้ามาภายในวัดแล้วเราจะเห็นลานหินกว้างมากข้างๆประตูนี้จะมีเคาน์เตอร์ขายบัตรอยู่ค่ะ
ถ้าเราจ่ายเงินค่าเข้าเราจะสามารถเข้าชมอาคารส่วนPalaceนี้ได้เข้าไปกันเลย
เดินเข้ามาจะเจอกับทางเดินยาวที่สองข้างทางมีสวนญี่ปุ่นอยู่แบบร่มรื่นมากให้เราเดินตรงไปอาคารสุดปลายทางสวนนั้นจะเจอกับทางเข้าอาคารPalaceค่ะ
ทางเข้าอาคารค่ะ
ถอดรองเท้าใส่ถุงแล้วหิ้วถุงนั้นติดตัวไปเลยค่ะ
เมื่อก้าวเข้ามาในอาคารแล้วเราจะเจอกับศิลปะการจัดดอกไม้แบบญี่ปุ่นวางต้อนรับเราอยู่เลยค่ะศึ่งศิลปะการจัดดอกไม้ของญี่ปุ่นถือว่าเป็นศิลปะขั้นสูงที่ต้องมีการเรียนและสอบกันแบบจริงจังมากค่ะไม่ใช่ใครก็สามารถจัดได้
ให้เราเดินเลี้ยวไปด้านขวาเราจะเจอกับทางเดินไม้เชื่อมอาคารคดเคี้ยวเลี้ยวไปมาแบบมีเสน่ห์สุดๆ โอคซังถ่ายรูปอยู่แถวๆทางเดินนี้วนไปวนมาค่ะ เมื่อเดินมาเรื่อยๆเราจะเจอกับสวนหินขนาดใหญ่ค่ะ เพื่อนๆสามารถนั่งพักชมสวนตรงนี้หรือจะเดินลัดเล่ะระเบียงไปต่อเรื่อยเพื่อชมสวนอีกโซนนึงก็ได้ค่ะ
สวนหินที่มีการถากทำลวดลายโชว์ไว้กว้างมากๆ
ภาพภายในอาคารระหว่างทาง
ความปราณีตของศิลปะภาพเขียนประตูชั้นแรกของที่นี่สวยงามมาก
ระหว่างทางค่ะ แอบถ่ายภาพได้หลายภาพเลยเพราะคนน้อยมาก
ระหว่างทางเดินลัดเลาะระเบียงไปค่ะ
เจอกับศิลปะการเพ้นผนัง ประตูแบบญี่ปุ่นอีกแล้วค่ะ สวยงามมาก
เดินมาจนถึงสวนญี่ปุ่นด้านในจนได้
มีคนนั่งชมสวนอยู่ด้วยค่ะ ถือว่าคนไม่เยอะมากค่ะ
อลังการงานสร้างมากๆ แบบนี้นึกภาพตอนฤดูใบไม้แดงกับฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุมไม่ออกเลยค่ะว่าจะสวยงามขนาดไหนนี่ขนาดว่าโอคซังมาตอนหน้าร้อนนะคะ
นั่งชมสวนค่ะ ชอบสวนในโซนนี้มากๆ นั่งรับลมอยู่คนเดียวเพลิดเพลินมากเพราะคนน้อย พักผ่อนสักนิดแล้วเราไปเดินชมอาคารในส่วนอื่นๆกันต่อค่ะ
น่าลองสร้างบ้านของตัวเองเป็นแนวแบบนี้น่าจะโปร่งสบายน่าดู
ภาพอาคารจากมุมอื่นๆค่ะ ตรงนี้เราจะเห็นรายละเอียดของสถาปัตยกรรมว่ามันเก่าจริงๆสังเกตจากหลังคาที่มีการทำในแบบญี่ปุ่นโบราณที่ทำมาจากฟางและเปลือกไม้ และถ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่ามีมอสขึ้นปกคลุมหลังคาอีกด้วยค่ะ
ภาพตัวอย่างจากมุมอื่นๆค่ะ
ไปชมอาคารอื่นในวัดนินนาจิในโซนชมฟรีค่ะ เราจะสังเกตเห้นอาคารสัชมพูอยู่ไกลๆหลังจากที่เราเดินออกมาจากPalaceแล้ว เมื่อเดินเข้าไปทางอาคารสีชมพูแล้ว จะเจอกับอาคารสวดมนต์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ค่ะ จะเห็นว่ามีกลุ่มคนมาสวดมนต์กันอยู่บ่อยๆค่ะ
อาคารสวดมนต์ค่ะ
อาคารนี้เป็นหอสมุดค่ะแต่ไม่เปิดให้เข้าชมนะคะ
และภาพนี้คือภาพของหอคอยที่มีชื่อเสียงสุดๆ โดยเฉพาะช่วงซากุระบานค่ะ สีเขียวๆที่เห็นในภาพนั้นจะเปลี่ยนเป็นสีชมพูไปทั้งหมดเลยค่ะ
วันนี้เป็นทริปที่ผ่อนคลายมากๆค่ะ ไม่ต้องรีบร้อนได้ชมสวนสวยๆพร้อมนั่งรับลมเย็นๆไปด้วยมีความสุขมากๆ สำหรับใครที่มาเที่ยววัดนินนาจิแล้วมีผู้สูงอายุมาด้วยหรือต้องการประหยัดเวลามากที่สุดแนะนำให้เช้าชมแค่อาคารแรกที่เสียเงินค่าเข้าชมสวนก็พอค่ะไม่จำเป็นต้องเข้าไปชมอาคารส่วนที่เหลือค่ะเพราะได้ชมเพียงด้านหน้าอาคารเท่านั้น นอกจากนี้แล้วพื้นที่บริเวณของวัดนั้นค่อนข้างกว้างมากๆเดินจนเหนื่อยแต่ได้ชมอาคารเพียงไม่กี่หลังค่ะ
แล้วเจอกันใหม่ในบืความหน้านะคะ
มาตะเน้
COMMENTS