ไปเที่ยววัดในเหรียญ10เยนของญี่ปุ่น Byodoin templeที่Uji cityเกียวโต

หยิบเหรียญ10เยนในมือขึ้นมาดูสิคะว่าเป็นที่ไหน วันนี้จะพามาชมวัดที่อยู่ในเหรียญ10เยนของญี่ปุ่นกันค่ะนั่นก็คือ”วัดเบียวโดอิน平等院”เป็นวัดที่สร้างโดยตระกูลฟุจิวาระ (Fujiwara) ในปี1052 โดยแรกเริ่มตระกูลฟุจิวาระได้สร้างเป็นบ้านพักตากอากาศส่วนตัวแต่ในตอนหลังได้เปลี่ยนให้กลายเป็นวัดในแบบศาสนาพุทธ อาคารหลักเรียกว่าอาคารนกฟินิกซ์ถูกสร้างไว้ล้อมรอบด้วยบ่อน้ำและมีสะพานสีแดงเชื่อมเอาไว้ข้ามเข้าไปยังตัวอาคาร โดยอาคารและการตกแต่งภายในทั้งหมดที่สร้างได้รับแรงบรรดาลใจในแบบศาสนาพุทธแบบเข้มข้นมากๆ สวนภายในวัดเองก็ถูกออกแบบให้ผสมผสานศิลปะแบบเฮอัน(แบบจีน)ทำให้วัดแห่งนี้มีเสน่ห์มากๆ

นอกจากนี้แล้ววัดเบียวโดอินยังเป็นที่ที่รวบรวมศิลปะยุคโบราณในสมัยเฮอันไว้อีกด้วย ทั้งภาพวาดฝาผนัง รูปปั้นพระพุทธรูป และศิลปะอื่นอีกมากมาย จนยูเนสโก(UNESCO)ยกย่องให้วัดแห่งนี้เป็นหนึ่งสถานที่มรดกโลกที่ควรค่าต่อการรักษาไว้เป็นอย่างยิ่ง

งานแสดงงานศิลปะแบบศาสนาพุทธยุคเฮอันนี้จะถูกจัดแสดงไว้ในอาคารพิพิธภัณฑ์ที่ไม่สามารถถ่ายรูปได้ เพราะฉะนั้นใครที่มาเที่ยวที่นี่ต้องใช้ตามองและใช้หัวใจจำไว้เท่านั้นแล้วค่ะ จากการที่โอคซังเข้าไปชมมาต้องบอกว่าประทับใจในความสวยงามของศิลปะ1,000ปีที่มีความปราณีตสวยงามมากๆ คุ้มค่ากับการเข้าชมมากๆค่ะ

วิธีเดินทางไปวัด

วัดเบียวโดอินจะตั้งอยู่ในเมืองUjiจังหวัดเกียวโต เป็นเมืองที่เป็นแหล่งกำเนิดของชาเขียวแท้ที่แรกในญี่ปุ่นอยู่ไม่ห่างจากUji Station สามารถนั่งรถไฟจากkyoto Staion สายนาราขึ้นแฟลตฟอร์มที่8แล้วตรงสู่เมืองUjiได้เลยค่ะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ15นาที เมื่อถึงแล้วให้เดินเท้าต่ออีกนิดเดียวก็จะเจอกับวัดเบียวโดอินแล้วค่ะ

เปิดแผนที่การเดินทางไปยังวัดเบียวโดอินที่https://goo.gl/maps/Uc4gvD3egJU2

เมื่อเข้ามาในเมืองอุจิแล้วให้เราเดินไปเรื่อยๆจะเจอกับป้ายทางเข้าวัดใหญ่มาก

เห็นแบบนี้แล้วเดินตามทางนี้เข้าไปเลยค่ะ

ประตูทางเข้าทอดยาวไปด้านหน้ามีฝั่งทางออกกับทางเข้าให้เราเดินไปตามลูกศรทางเข้า 入口ค่ะ

ราคาค่าเข้าชม

ผู้ใหญ่ 600เยน(180บาท) เด็ก 300-400เยน(90-120บาท)

สำรวจบรรยากาศภายในวัดแบบคร่าวๆ

เพื่อให้เพื่อนๆได้อรรถรสในการอยากไปเที่ยวที่นี่โอคซังจะถ่ายภาพมาให้ดูเพียงคร่าวๆเท่านั้น วัดแห่งนี้ด้านในจะมีขนาดกว้างมากๆค่ะโดยเฉพาะพื้นที่สวนรอบๆวัด ทางเดินจะโดยด้วยกรวดหินเพราะฉะนั้นแนะนำว่าควรใส่รองเท้าผ้าใบมานะคะจะทำให้เดินชมภายในวัดได้แบบสบายๆ ภายในวัดจะแยกโซนส่วนที่ชมในราคาปกติหรือจะชมอาคารอื่นด้วยก็ต้องจ่ายเงินเพิ่มค่ะ

ทางเข้าวัดก็จะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยยืนอยู่ค่ะ คุณลุงเจ้าหน้าที่ทำหน้าที่ตรวจตั๋วของเราไปแบบพรางๆด้วย

เมื่อเข้ามาด้านในแล้วเราจะได้เอกสารรายละเอียดเกี่ยวกับวัดมีให้เลือกฉบับภาษาอังกฤษหรือภาษาญี่ปุ่นก็ได้ค่ะ

เข้ามาแล้วคนแน่นมากๆค่ะ แต่พื้นที่กว้างก็เลยไม่รู้สึกอึดอัดอะไรค่ะ

เก็บภาพบรรยากาศวัดเอาไว้ดูยามแก่ชราเลยค่ะ อาคารหลักนกฟินิกซ์อาคารนี้สวยจริงๆ ถึงตรงนี้แล้วให้ทุกคนลองหยิบเหรียญ10เยนขึ้นมาเทียบดูจะเห็นความเหมือนอย่างชัดเจน

จุดปั๊มสแตมป์ท่องเที่ยวค่ะ ใครที่มีสมุดท่องเที่ยวสามารถมาเก็บตราที่นี่ได้อีกหนึ่งที่นะคะ

คนต่อแถวกันยาวมากถึงมากที่สุด

เมื่อเราเดินมาเรื่อยๆจะเจอเข้ากับทางเข้าพิพิธภัณฑ์ที่ถ้ามองจากภายนอกจะไม่มีทางรู้ได้เลยค่ะว่าข้างในมีพิพิธภัณฑ์อยู่ แต่ตั้งแต่ตรงนี้ทางวัดห้ามถ่ายภาพค่ะ

เมื่อดูงานศิลปะแบบชาวพุทธไปแล้วโอคซังเดินออกทางประตูทิศใต้และไปเดินเล่นในเมืองอุจิต่อแบบสบายๆเลยค่ะ

ทางเดินด้านหลังโล่งมากยืนถ่ายรูปแบบสบายมากค่ะ

จากนั้นก็ไปเดินเที่ยวเล่นในเมืองอุจิทานชาเขียวแบบไม่หยุดกันต่อได้เลยค่ะ

สรุปความคิดเห็น

วัดเบียวโดอินเป็นวัดที่สวยมากคนไทยน่าจะประทับใจค่ะโดยเฉพาะชาวพุทธหรือคนที่หลงใหลในศิลปะญี่ปุ่นเพราะวัดแห่งนี้สวยทั้งตัวอาคารและการจัดการแสดงศิลปะด้านใน คนไทยยังไม่ค่อยมีคนรู้จักหรือมาเที่ยวที่นี่สักเท่าไรซึ่งในความเป็นจริงแล้วสามารถนั่งรถไฟมาจากKyoto Stationแค่15นาทีก็ถึงแล้วค่ะ นอกจากเพื่อนๆจะได้มาชมความงามของวัดแล้วอาหารเมนูชาเขียวระหว่างทางที่เดินมาวัดก็อร่อยมากๆเช่นกันค่ะ [เที่ยวเกียวโต1วันไปถิ่นกำเนิดชาเขียวของญี่ปุ่นที่Uji Cityแบบประหยัด]

แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้านะคะ

มาตะเน้