ผู้ชายญี่ปุ่นขี้เหนียว ซาดิส ใช้ความรุนแรงในบ้าน และหลายสิ่งที่โอคซังเคยได้ยินมา ก่อนที่จะได้พบปะเพื่อนๆหลายชาติโลกของโอคคงแคบจริงๆค่ะที่ด่วนตัดสินคนทั้งประเทศไปในแบบที่สังคมบอกเล่ากัน แต่พอโอคซังได้มีเพื่อนต่างชาติมากขึ้นได้รู้จักสามีคนนี้ก็ทำให้โลกทั้งใบของเราเปลี่ยนไปเพราะเขาคือคนที่น่ารักกับเรามากๆและสิ่งที่จะทำให้เราอยู่ด้วยกันได้จริงๆคือความเข้าใจที่มีให้กัน การให้เกียรติกัน นอกจากจะร่วมสุขอย่างเดียวไม่พอแต่ต้องพร้อมที่จะร่วมทุกข์ด้วยกันได้อีกด้วย
รู้จักกับสามีญี่ปุ่นได้ยังไง
ย้อนไปเมื่อหลายปีก่อนสมัยที่โอคซังยังเป็นนักศึกษาธรรมศาสตร์ปี2ได้มีโอกาสมาเที่ยวญี่ปุ่นกับทางคณะอาจารย์และเพื่อนๆ ส่วนสามีของโอคซังตอนนั้นก็ยังเป็นนักศึกษารุ่นพี่ชาวญี่ปุ่นที่มาดูแลน้องๆนักศึกษาไทย รุ่นพี่ชาวญี่ปุ่นคนนี้ให้สารภาพกับโอคซังทีหลังว่าเขาเองคอยเทคแคร์เพราะหวังว่าจะอยู่ในสายตาเราบ้างค่ะ(น่ารักสุดๆ)แต่ความรักก็ไปต่อไม่ได้ค่ะเพราะโอคซังเองตอนนั้นมีแฟนคนไทยอยู่แล้ว จนโอคซังเรียนจบ ทำงาน เลิกกับแฟนคนไทย เริ่มปาร์ตี้กับเพื่อนมากขึ้น มีโอกาสได้เจอได้คุยปรึกษาเรื่องเรียนต่อที่ญี่ปุ่นกับรุ่นพี่ชาวญี่ปุ่นคนนี้(สามี)มากขึ้น จึงลาออกจากงานและตัดสินใจมาเรียนที่ญี่ปุ่นค่ะ จนได้จดทะเบียนแต่งงาน ได้มีงานทำในญี่ปุ่น ได้ใช้ชีวิตเป็นแม่บ้านจนถึงทุกวันนี้ ตั้งแต่ที่เรารู้จักกันในฐานะเพื่อนจนเลื่อนเป็นแฟนและเป็นสามีมันใช้ระยะเวลาที่นานพอสมควรแต่พอนึกย้อนดูแล้วก็คิดนะคะว่าคนที่ใช่แบบนี้จะเข้ามาในเวลาที่เหมาะสมจริงๆ
สามีญี่ปุ่นทำงานอะไร?
ภาพของผู้ชายญี่ปุ่นที่เรานึกถึงคือซารารี่แมนผูกไทไปทำงานแต่เช้าจนมืดค่ำเลิกงานก็ปาร์ตี้สังสรรค์ แต่สามีของโอคซังเป็นนักวิจัยที่ทำงานในมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดเกียวโตค่ะ ทำงานไม่เป็นเวลาบางครั้งหายไปเลยสองวันสามวันก็มีแต่เราต้องเข้าใจเขาค่ะ บางครั้งทำงานหนักมากโอคก็ต้องทำข้าวกล่องเอาไปส่งให้ที่ที่ทำงานเขา ส่วนเงินเดือนก็คงจะเท่าๆกันกับข้าราชการไทยพอหักค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำค่าไฟ ค่าแก๊สหุงต้ม ค่าอาหาร และหนี้สินที่มีก็เกือบไม่พอใช้แล้วค่ะ ครั้นจะให้เราอยู่เฉยๆคุยกับกำแพงไปวันๆก็ไม่ได้นะคะ แม่บ้านแบบเราต้องลุกขึ้นมาปฏิวัติอะไรสักอย่างแรกเริ่มโอคซังเริ่มหางานพาร์ททามเล็กๆทำตามซุปเปอร์มาเก็ต นอกจากจะมีรายได้เล็กๆน้อยๆเข้ามาเรายังมีเพื่อนคุยอีกด้วยค่ะไม่เหงาตายในทะเลทรายกว้างใหญ่ที่เรียกว่าบ้าน
ลักษณะนิสัยสามีญี่ปุ่น
สามีของโอคซังจะแตกต่างจากคนญี่ปุ่นทั่วๆไปหรือปล่าว?อันนี้ไม่ทราบแต่ขอเม้าค่ะ หากใครที่คิดจะมีแฟนเป็นคนญี่ปุ่นต้องทำใจในเรื่องระยะห่างความเป็นส่วนตัวค่ะ จะไม่ชอบการเซ้าซี้หรือรักกันตลอด24ชั่วโมง สามีของโอคเป็นคนที่โลกส่วนตัวสูงมากๆจนภรรยาอย่างเราเองกลายเป็นก็มีโลกส่วนตัวสูงเหมือนกันค่ะ หลายครั้งที่ต่างคนต่างอยู่หน้าคอมของตัวเองหรือกินอาหารไม่เหมือนกันแยกจานกันกิน หรือการไม่ชอบแสดงออกความรักในที่สาธารณะโดยให้เหตุผลว่า เราควรแสดงความรักกันที่บ้านไม่ใช่ต่อหน้าคนอื่นเพราะเกรงใจคนอื่น(เป็นโรคขี้อายและขี้เกรงใจเแบบสุดๆ) เป็นคนใจเย็น ใจดี ไม่เคยโมโหขึ้นเสียงเพราะว่าเขาเป็นคนแบบนี้ เราอยู่กับเขาแล้วเราสบายใจมากๆ
ส่วนเรื่องปัญหาแม่สามีกับลูกสะใภ้คนไทยไม่มีแม้แต่น้อยค่ะ แรกๆเขาก็อาจจะกังวลนิดหน่อยค่ะเพราะเขาไม่รู้จักว่าเราคือใคร แต่โอคคงจะโชคดีมากๆที่ได้รู้จักครอบครัวนี้เพราะทุกคนใจดี น่ารัก พยายามเอาใจเราทุกอย่าง เวลาเจอกันไม่เคยมีฝากฝังว่าให้เราดูแลลูกเขาให้ดีๆมีแต่จะบอกลูกชายเขาว่าให้ดูเลเราให้ดีๆ ทำให้โอครู้สึกด้วยใจจริงๆค่ะว่าเราคือครอบครัวเดียวกัน
เป็นแม่บ้านต้องทำงานบ้านขนาดไหน?
ภาพจริงที่บ้านของสามีสมัยยังเป็นหนุ่มโสดค่ะ เห็นแล้วจะร้องไห้
สามีของโอคซังเป็นคนที่ชอบความรกในแบบที่ถ้าเพื่อนๆเคยดูรายการทีวีของญี่ปุ่นจะมีพาไปทัวบ้านขยะ ที่ทั้งบ้านมีแต่ขยะ บ้านหนุ่มโสดแบบนี้หล่ะค่ะในแบบที่สามีของโอคซังเป็น ดังนั้นเรื่องงานบ้านโอคซังจึงต้องทำทุกอย่าง100%ค่ะ ตัวเลขนี้ไม่ได้เกินจริงแต่อย่างได้โอคซังเชื่อว่าแม่บ้านญี่ปุ่นหลายคนน่าจะเข้าใจคำนี้ดี ทำทุกอย่างจนโอคจำทุกตารางนิ้วในบ้านได้หมดค่ะว่าอะไรอยู่ตรงไหนและควรจะจัดบ้านอย่างไร คุณสามีญี่ปุ่นของโอคจะไม่มาบังคับให้ทำงานบ้านค่ะเพราะเขาอยู่ได้แบบรกๆ แต่เวลาที่โอคซังไปบ้านเพื่อนๆชาวญี่ปุ่น หรือไปบ้านแม่สามีจะเห็นวิธีการจัดบ้านของเขาที่สะอาดกริบทำให้เรากลับมาพิจารณาตัวเองและเริ่มเก็บบ้านแบบจริงจัง (เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามค่ะ) และยังต้องคอยสอนวิธีจัดบ้านให้เขาในทุกวันจนถึงทุกวันนี้ค่ะ แต่งงานแล้วนอกจากจะได้สามีแล้วยังได้ลูกชายมาพร้อมกันในเวลาเดียวด้วยค่ะ
จัดการเรื่องเงินในบ้านอย่างไร?
สิ่งที่โอคซังเรียนรู้ตั้งแต่อยู่ที่ญี่ปุ่นมาหลายคนที่ได้สามีคอยดูแลเอาใจให้เงินใช้ถือว่าเป็นเรื่องที่โชคดีมากๆ แต่ถ้าใครที่สามีไม่ได้รวยเหมือนโอคซังแบบนี้เราต้องช่วยกันหาช่วยกันสร้างค่ะ เขาเองก็จะได้ไม่เหนื่อย เราเองก็จะได้ไม่ต้องฝากอนาคตทั้งหมดไว้กับเขาอย่างน้อยๆถ้าวันหนึ่งที่เขาไม่อยู่แล้วเราจะยังสามารถยืนด้วยขาของเราเองได้ค่ะ ดังนั้นโอคซังจึงเริ่มหางานทำไม่ว่าจะเป็นงานพาร์ททามที่ข้อดีคือเราสามารถเลือกเวลางานได้ หรือจะเป็นงานประจำที่เคยทำมาก็จะมีส่วนขอโบนัสที่ได้เพิ่มเข้ามาในทุกๆ6เดือนเหมือนตอนทำงานที่ไทยเลยค่ะ แต่ในเรื่องของค่าใช้จ่ายภายในบ้านสามีจะเป็นคนรับผิดชอบทุกอย่าง เรียกได้ว่าเงินเขาคือเงินเรา เงินเราคือเงินเราค่ะ! ค่าใช้จ่ายอะไรในบ้านไม่พอโอคซังก็จะเดินไปขอกับเขาตรงๆว่าขอเงินซื้อข้าวหน่อย สามีจะไม่มีเงินเป็นรายเดือนให้ใช้เพราะเหมือนเราใช้กระเป๋าเดียวกันไปแล้วค่ะ สามารถถามและตรวจสอบยอดเงินในทุกเมื่อ
ทะเลาะกับสามีญี่ปุ่นรุนแรงขนาดไหน
หลายครั้งที่เราไม่มีความเข้าใจกันค่ะเพราะเรามีวัฒนธรรมความคิดที่ต่างกันตั้งแต่เกิดนะคะ แต่ทุกครั้งสามีจะเป็นคนชนะในการดีเบตนี้เสมอๆ สามีจะนิ่งเป็นน้ำใส่เราค่ะและบอกกับเราว่าการขึ้นเสียงของเราเป็นพฤติกรรมที่ไม่ดี(น้ำตาจะไหล)เราควรจะหันหน้ามาพูดกันดีๆ หลังจากนั้นโอครู้สึกว่าแม้ว่าเราจะทำเลาะกันกี่ครั้งเขาก็จะให้เกียรติเราเสมอๆค่ะ ทำให้โอคเปลี่ยนเป็นคนเอาแต่ใจน้อยลงไปมากๆ
ถ้ายิ่งทะเลาะกันเราจะยิ่งผิดค่ะ ยิ่งงอลต้องยิ่งง้อตัวเองนะคะเพราะเขาจะไม่ง้อเราเลย เขาไม่เข้าใจอาการงอลค่ะ ถ้าเราเคยได้ยินคำว่าผู้ชายเหมือนควายเผือก ผู้ชายญี่ปุ่นคงจะเป็นมากกว่าควายเผือกค่ะ ดังนั้นเทคนิคการงอลคือ “ไม่ต้องงอลค่ะ” รู้สึกอะไรพูดเลยด้วยเหตุผลค่ะ
วันนี้โอคซังมีพื้นที่ในการเม้ามอยสามีแบบสั้นๆเป็นเหมือนการระบายสิ่งอัดอั้นในใจไปเยอะ ขอบคุณสำหรับใครที่อ่านกันจนจบนะคะโอคซังคิดว่าคนที่อ่านอยู่นี้จะมีเพื่อนที่เจอแบบเดียวกันมาเยอะ หรือแม้แต่คนที่กำลังตัดสินใจว่าจะคบหรือไม่คบกับแฟนชาวญี่ปุ่นลองอ่านกันไว้ค่ะเพื่อนๆอาจจะได้เจอเหตุการณ์แบบเดียวกันหรือต่างออกไปก็ได้ มาแชร์ให้กันอ่านได้นะคะเวลาที่เจอเพื่อนๆเจอเหตุการคล้ายๆกันโอคซังตื่นเต้นค่ะ ชอบอ่านค่ะ รอเพื่อนๆมาแชร์กันอยู่นะคะ
แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้าค่ะ
มาตะเน้
COMMENTS
แอบเม้าท์สามีเบาเบา 555 ^^
ขอบคุณมากสำหรับบทความนะคะ
ตอนนี้พี่ก็หาข้อมูลเกี่ยวกับการสมรสและย้ายไปญี่ปุ่น
แอบกังวลเบาๆ เพราะเป็นสาวโสดมานาน
พี่ชอบวัฒนธรรมและครอบครัวเค้าที่นั่นนะค่ะ น่ารักเหมือนครอบครัวเราที่ไทยเลย
ส่วนแฟนพี่นางชอบดื่มและติดเพื่อน แต่ก็ติดเราด้วย(เพราะเราบอยๆลุยๆเหมือนเพื่อนๆนาง)
เป็นกำลังใจให้นะค่ะ และจะติดตามบทความจาโอคซังนะคะ ^^
ขอบคุณมากๆค่ะที่มาแชร์กัน ชอบจังเลยมีคนเข้ามาแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันด้วย
อย่ากังวลไปเลยค่ะ แต่งงานกับคนญี่ปุ่นแล้วก็ยังเหมือนโสดค่ะ 5555555 เค้าไม่ยุ่งกับเราเลย ส่วนตั๊วส่วนตัวค่ะ T T
ดีใจนะคะที่ชอบวัฒนธรรมทางนี้แบบนี้ปรับตัวได้ไม่ยากค่ะ ยืนยันอีกเสียงว่าครอบครัวทางนี้น่ารักจริงๆ>////< แฟนหนูก็ชอบดื่มและปาร์ตี้เหมือนกันค่ะเคยไปด้วยแล้วแต่ไม่ใช่ทางเราเลยปล่อยสามีไปคนเดียว55555 แอบอิจฉาพี่เบาๆแบบนี้ไปเฮฮาด้วยกันได้ตลอด เห็นเพื่อนแฟนคนอื่นก็พาแฟนตัวเองไปตลอดเลย ขอบคุณอีกครั้งนะคะ แล้วความคืบหน้าในอนาคตเป็นยังไง มาอัพเดทกันได้ค่ะ ><
ขอบคุณที่มาแชร์นะคะ อ่านเพลินมากค่ะเรียลดีค่ะชอบ เรากำลังทำวีซ่าแต่งงานอยู่ค่ะพอได้มาอ่านบทความของโอคซังหลายบทความมีประโยชน์มากเลยค่ะ