สวัสดีค่ะก่อนหน้านี้โอคซังได้เคยเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับANA Lounge แบบไฟล์ทบินระหว่างประเทศมาแล้ว แต่ในครั้งนี้โอคซังจะมารีวิวพาเพื่อนๆไปชมANA LoungeแบบDomestic ภายในประเทศญี่ปุ่นกันดูบ้างว่าเป็นอย่างไร ห้องรับรองแบบนี้ไม่ใช่ผู้โดยสารธรรมดาจะเข้าได้นะคะ ผู้โดยสารจะต้องมีการซื้อบัตรเข้า หรือเป็นสมาชิกชั้นดีวีไอพีของเครือStar Alliance gold หรือที่คนไทยเรียกกันติกปากว่าบัตรทองนั่นเอง ซึ่งกลุ่มพันธมิตรStar Alliance Gold ก็มีการบินไทยรวมอยู่ในนั้นด้วย แบบนี้แล้วถ้าเพื่อนๆคนไทยเป็นสมาชิกบัตรทองของการบินไทย(Thai Airways)แล้วมีไฟล์ทบินภายในประเทศญี่ปุ่นก็สามารถเข้าใช้เลาจ์นี้ได้เช่นกันค่ะ
บัตร ANA Mileage club มีประโยชน์นะ
สำหรับโอคซังโอคซังเก็บสะสมไมล์การบินจากสายการบินANA เป็นหลักค่ะ จึงเริ่มสะสมไมล์จากการสมัครบัตร ANA Mileage clubที่เป็นบัตรแรกเริ่มนับหนึ่งกับกิจกรรมเก็บไมล์บินบวกกับสมัครบัตรเครดิตJCBของANAไว้ด้วย ดังนั้นการเก็บไมล์สะสมเพื่อแลกตั๋วเครื่องบินฟรีๆจึงไม่ใช่เรื่องยากค่ะ ยิ่งเรามีไฟล์ทบินบ่อยๆเราจะยิ่งเก็บสะสมคะแนนพ้อยสถานะจนได้Star Alliance Goldในที่สุดค่ะ โอคซังจึงแนะนำเพื่อนๆคนไทยสมัครของการบินแล้วใช้การบินไทยก็ได้ หรือจะสมัครบัตรสะสมไมล์ของสายการบินอื่นๆที่เพื่อนๆใช้เป็นประจำไว้เลยจะทำให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจนแปลกใจเลยค่ะ
ถือตั๋วเข้าใช้บริการเลาจ์ได้เลย
สำหรับใครที่เป็นสมาชิกบัตรทองStar Alliance goldแล้วในทุกครั้งที่เราเชคอินได้ตั๋วเครื่องบินมานั้น ที่ตั๋วของเราจะมีสถานะบัตรทองเขียนติดไว้อยู่แล้ว เมื่อเราต้องการเข้าใช้เลาจ์เพียงแค่เราสแกนที่เครื่องสแกนหน้าประตูก็สามารถเข้าใช้ได้เลยค่ะ
ปกติแล้วเวลาที่เราจะต้องเชคอินปกติของสนามบินHaneda เคาน์เตอร์เชคอินจะเรียงรายแบบนี้ยาวๆไปค่ะ ซึ่งส่วนมากจะเป็นเคาน์เตอร์เชคอินและโหลดกระเป็าอัตโนมัติค่ะ
ข้างๆตู้เชคอินที่วางเรียงรายอัตโนมัติจะมีช่องที่เหมือนห้องอะไรสักอย่างเล็กๆอยู่ตรงนี้
เมื่อเราดูใกล้ๆจะมีป้ายที่บอกว่านี่แหล่ะคือช่องเชคอินพิเศษที่สมาชิกที่มีสัญลักษณ์เหล่านี้ที่บัตรสามารถเข้าใช้ได้เท่านั้น ถ้าไม่มีสัญลักษณ์แบบนี้เข้าใช้ไม่ได้นะคะ
เข้าไปด้านในกันเลยค่ะ
หลังจากที่เราเข้ามาในห้องเชคอินแล้วส่วนนี้โอคซังไม่สามารถถ่ายภาพได้เพราะจะอยู่ติดกับโซนตรวจรักษาความปลอดภัยที่ตามกฎหมายแล้วห้ามถ่ายภาพบริเวณนั้นค่ะ แต่ทุกอย่างก็ราบรื่น เมื่อผ่านการตรวจประเป๋าทุกอย่างแล้วทางเชื่อมที่ออกจากจุดตรวจกระเป๋าก็คือบันไดเลื่อนที่นำไปสู่เลาจ์ANAเลยค่ะ มันช่างสะดวกอะไรแบบนี้ไม่ต้องเดินไกลค่ะ และทุกทางคือทางบังคับเดินไม่มีคำว่าหลงทางในสนามบินแน่นอน
เดินตามบันไดเลื่อนขึ้นไปค่ะ ให้ความรู้สึกเป็นคนสำคัญมากๆ
เรามาถึงด้านหน้าเลาจน์แล้วค่ะ หยิบตั๋วของเราขึ้นมาและสแกนกับเครื่องสแกนข้างหน้าเคาน์เตอร์ได้เลยค่ะ
สแกนแบบนี้นะคะ
5ข้อควรระวังในการเข้าใช้ ANA Lounge Haneda แบบภายในประเทศ
1. หลีกเลี่ยงการถ่ายภาพผู้อื่น
ก่อนที่โอคซังจะเข้าใช้เลาจน์นี้พนักงานบอกกับโอคซังเพราะเห็นโอคซังถือกล้องอยู่ในมือว่ากรุณาหลีกเลี่ยงการถ่ายภาพผู้โดยสารท่านอื่นด้วยนะคะ โอ่โหวิญญาณการบริการนั้นสูงมากเราถึงกับละอายแก่ใจไม่กล้าถ่ายภาพใครเลยค่ะ แต่ก็พยายามแอบถ่ายมาแบบให้ติดคนให้น้อยที่สุดเท่าที่ทำได้ เพราะANAเป็นสายการบินของญี่ปุ่นที่คนส่วนใหญ่จะเป็นคนญี่ปุ่นและสิ่งที่เรารู้กันดีอยู่แล้วคือคนญี่ปุ่นจะถือเรื่องความเป็นส่วนตัวมากๆและเกิดกรณีฟ้องร้องกันบ่อยครั้งถ้ามีการุ่ายวีดีโอติดใครสักคนโดยที่ไม่ได้รับอนุญาติก่อนค่ะ
2. งดส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่น
เมื่อเราเข้ามาภายในเลาจน์แล้วนอกจากคนที่จะนั่งห่างๆกันแล้วเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวเราเองก็ยังต้องงดส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่นอีกด้วยค่ะสังเกตุจากที่นั่งในการออกแบบภายในเลาจ์นี้ส่วนใหญ่จะเป็นที่นั่งที่ไม่ได้หันเข้าหากันเลยและจะเป็นที่นั่งที่สามารถนั่งคนเดียวได้ทุกๆที่ และคนที่เข้ามาใช้บริการเลาจ์บางคนก็นั่งทำงานไปด้วยในระหว่างรอขึ้นเครื่องดังนั้นเพื่อเป็นการรักษามารยาทอันดีก็ควรงดส่งเสียงรบกวนผู้อื่นค่ะ
3. ไม่วางของตรงทางเดิน
ที่นั่งภายในเลาจน์ส่วนใหญ่จะวางเรียงติดๆกันทำให้มีพื้นที่ในการใช้เดินไม่กว้างมากค่ะดังนั้นหากเรามีกระเป็าสเดินทางใบใหญ่มาด้วยควรเลือกที่นั่งที่มุมหรือที่นั่งที่สามารถวางกระเป๋าไว้ด้านข้างโดยที่ไม่กีดข้างทางเดินทางผู้โดยสารท่านอื่นค่ะ
4. ดื่มเครื่องดื่มแบบพอเพียง
ภายในเลาจ์จะมีขนมและน้ำบริการฟรีแต่ไม่สามารถฝากท้องไว้ได้แบบห้องรับรองระหว่างประเทศนะคะ เพราะเลาจน์แห่งนี้จะมีเพียงขนมซองเล็กๆที่เราต้องทานให้หมดภายในนี้ไม่สามารถนำออกมาข้างนอกได้เด็ดขาด น้ำดื่มรสต่างๆก็เช่นกันค่ะ ดังนันหยิบมาทานแต่พอดีนะคะ
วันนี้โอคซังดื่มน้ำส้มแก้วเดียวค่ะกีนะที่ก่อนเข้ามาในนี้ทานข้าวปั้นสาหร่ายมาจากข้างนอกก่อนแล้วไม่งั้นหิวตาลายค่ะ
5.อย่าเพลินจนลืมเวลาเรียกขึ้นเครื่อง Boarding time มาแล้ว
หลายครั้งที่โอคซังเข้าใช้บริการANA Loungeแล้วเกือบลืมเวลาเรียกขึ้นเครื่องตลอดเพราะตอนใช้บริการข้างในนี้มันผ่อนคลายค่ะ สามารถทำงานชิลๆได้โดยไม่ต้องกังสลอะไร ห้องน้ำสะอาดก็มีให้ใช้พอหันมองนาฬิกาอีกทีเหลือเวลาอีก15นาทีก็ได้เวลาเรียกขึ้นเครื่องโอคซังต้องรีบออกมาจากเลาจน์และเดินไปที่เกตของเราอย่างทันที แต่ก็จะโล่งใจทุกครั้งที่ทางออกจากเลาจน์จะอยู่ไม่ไกลจากเกตขึ้นเครื่องของเราโดยส่วนใหญ่ใช้เวลาเดินไม่เกิน5นาทีค่ะ สำหรับกลุ่มStar Alliance gold แบบเราๆสามารถใช้ Priority Boardingได้ก่อนใครเลยค่ะ จะมีประกาศให้เราขึ้นเครื่องนะคะ
นั่งเครื่องบินภายในประเทศ(โตเกียว ฮาเนดะ-โอซาก้า อิตามิ)
ก่อนเข้าเครื่องบินเราต้องทำการสแกนตั๋วเหมือนตอนที่เราสแกนก่อนเข้าใช้บริการเลาจน์ค่ะให้เราคว่ำคิวอาร์โค้ดลงเพื่อสแกนค่ะ
เห็นเครื่องบินของเราอยู่ไม่ไกลแล้วเดินตามคนอื่นๆเข้าไปกันเลย!
เข้ามาแล้วหน้าตาเครื่องบินเหมือนๆกันหมดแต่ ANAแตกต่างจากสายการอื่นตรงที่โอคซังรู้สึกสะอาดจมูกมากๆ กลิ่นดีไม่อับชื้นค่ะ
ที่นั่งที่โอคซังจองมาในวันนี้เป็นที่นั่งตรงกลางจึงไม่ได้มองหน้าต่างค่ะ
เห็นที่นั่งตรงนั้นแล้วอยากนั่งจัง แต่ที่นั่งตรงนั้นเต็มก่อนจองไม่ทันทุกที
ช่องว่างระหว่างขากว้างมากๆค่ะโอคซังแกว่งขาสบายเลย
เครื่องดื่มที่แนะนำตลอดคือ คอนโซเม่ซุปแสนอร่อยสดชื่นค่ะ
และแล้วเราก็ถึงปลายทางโดยสวัสดิภาพค่ะ
ในการเดินทางแต่ละครั้งเราจะได้เรียนรู้นิสัยใจคอ สภาพบ้านเรือนของคนในปต่ละพื่นที่ โอคซังทางมาในญี่ปุ่นหลายที่คนในแต่ละจังหวัดมีประเพณีที่แตกต่างกันแต่สิ่งหนึ่งที่เรียนรู้จากการท่องเที่ยวในญี่ปุ่นคือชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะรักษาระยะห่างพื้นที่ส่วนตัวเอาไว้มากๆเลยค่ะ ดังนั้นหากเราต้องใช้ชีวิตหรือท่องเที่ยวในญี่ปุ่นบ่อยๆอย่าลืมเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามนะคะเพื่อนๆเพื่อความสบายใจของทั้งสองฝ่ายค่ะ
แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้านะคะ
มาตะเน้^^
COMMENTS