สิ่งที่โอคซังทำสัปดาห์ละครั้งหรือสองสัปดาห์ครั้งนั้นก็คือการกินบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างหรือชาบูเพราะมันเป็นเหมือนการให้รางวัลตัวเองในวันที่เราทำงานมาเหนื่อยๆหรือแม้แต่ในวันที่อากาศหนาวเหน็บการกินปิ้งย่างหรือชาบูจะทำให้ความอร่อยเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว คนไทยหลายคนเมื่อมาเที่ยวญี่ปุ่นกันแล้วโอคซังแนะนำต้องลองมาทานบุฟเฟ่ต์ในแบบชาวญี่ปุ่นกันดูสักครั้งแล้วจะติดใจในความนุ่มของเนื้อแน่นอนค่ะ
บุฟเฟ่ปิ้งย่างชาบูในญี่ปุ่นราคาเท่าไร?
ราคาบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างยากินิคุจะถูกกว่าชาบูชาบูนิดหน่อยค่ะ แต่โดยรวมๆจะราคาพอๆกันดังนั้นถ้าช่วงไหนอยากทานบุฟเฟ่แบบนี้ถ้าไม่อยากเสียเงินเยอะต้องเลือกเอาสักอย่างระหว่างปิ้งย่างยากินิคุหรือชาบูชาบูจิ้มจุ่มค่ะ โดยราคาต่อหัวส่วนใหญ่จะอยู่ที่ ประมาณ 3,000~4,000円(ประมาณ900-1,200บาท)ค่ะ โดยราคานี้จะแยกกับราคาเครื่องดื่มอีกค่ะซึ่งส่วนใหญ่เครื่องดื่มก็จะมีแบบจ่ายปกติและแบบบุฟเฟ่ต์เช่นกัน กำเงินให้พร้อมแล้วเดินเข้าร้านกันเลยค่ะ
รีวิวร้านชาบูชาบูในดวงใจ
โอคซังทานชาบูอยู่ไม่กี่ร้านในเกียวโตค่ะก็จะมีร้านที่ราคาแพงเกินไป หรือแม้แต่ร้านที่ทานแล้วรู้สึกว่าไม่คุ้ม แต่วันนี้โอคซังจะมาแนะนำร้านประจำที่โอคซังมาทานจริงๆ(ขอย้ำค่ะง่าไม่มีสปอนเซอร์นะคะไม่เคยมีใครมาสปอนเราค่ะ)อยากให้เพื่อนๆไปลองทางกันดู ร้านนี้ชื่อร้านคาโกโนยะ かごの屋 มีหลายสาขาในเกียวโต ลองเสริชชื่อดูกันได้เพื่อหาสาขาที่ใกล้ที่พักนะคะ
สาขาที่โอคซังมาทานประจำคือสาขาที่อยู่แถว kitanohakubaichoที่เลยขึ้นไปอีกหน่อยจะเป็นวัดทองในตำนานนั่นเองแต่ร้านชาบูนี้เปิดตอน5โมงเย็นนะคะ จะมาทานตอนกลางวันไม่ได้นะคะอย่าเผลอไปกันหล่ะร้านยังไม่เปิดนะคะ แต่โอคซังแนะนำว่าหากใครต้องการทานจริงๆต้องไปในเวลาร้านเปิดเลยถ้ามาช้ากว่านั้นอาจจะต้องรอคิวนานค่ะเพราะคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่แล้วถ้าทานชาบูชาบูจะโทรจองโต๊ะกันล่วงหน้า ถ้าวอคอินเข้าไปมิสิทธิ์ได้โต๊ะแต่ต้องมาตรงเวลาตอนร้านเปิดค่ะยิ่งวันศุกร์ เสาร์ หรืออาทิตย์โอกาสได้ที่นั่งยิ่งน้อยค่ะ
เมื่อเข้ามาในร้านแล้วจะต้องถอดรองเท้าเพื่อเก็บเข้าชั้นไว้ให้เรียบร้อย แล้วเดินเข้าไปที่ที่นั่งของเราเลยค่ะ
ร้านนี้บริการดีค่ะพนักงานต้อนรับพาเราส่งถึงที่นั่งเลยค่ะ
เพื่อนๆอาจจะเห็นว่ามีกระดาษให้เซ็นชื่อตรงนี้ถ้าใครที่ไม่ได้จองโต๊ะมาแล้วเข้ามาแล้วให้เศ็นชื่อที่กระดาษนี้เพื่อเป็นการจองคิวนะคะจะได้ไม่พลากคิวของเราค่ะ เซ็นชื่อแล้วไปนั่งรอได้เลย
เมื่อได้คิวของเราแล้วพนักงานจะพาเรามานั่งที่โต๊ะค่ะ
บรรยากาศภายในร้านบ่งบอกความเป็นญราปุ่นแบบสุดๆ รวมถึงกลิ่นที่หอมอบอวนของน้ำซุป นาทีนี้ท้องร้องไม่หยุดเลยค่ะ
มีเมนูอะไรน่าสนใจบ้าง?
ที่ร้านนี้เราสามารถเลือกเมนูเป็นทานแบบบุฟเฟ่ต์หรือจะทานแบบสั่งแยกก็ได้ที่สามารถนั่งชิวๆไปได้เรื่อยๆถ้าเลือกทานแบบบุฟเฟ่ต์กำจัดเวลาทานตามราคาคอร์สที่เราเลือก โอคซังเลือกแบบlight ที่ราคาถูกสุดตลอดค่ะ(2,990เยน)เพราะเราไม่ทานเนื้อ ส่วนตัวน้ำซุปชาบูสามารถเลือกได้2แบบเลยค่ะหม้อจะมาเป็นแบบครึ่งๆ สั่งน้ำดื่มและนั่งรอค่ะ
นั่งรอไปค่ะจนกว่าน้ำซุปจะมาเสริฟ ในการเสริฟครั้งแรกจะมีผักและเนื้อมาให้แล้วเราก็สามารถสั่งได้ตามใจชอบทีหลังค่ะ
เวลาสั่งอาหารสามารถสั่งได้จากแป้นสั่งอันนี้ได้เลย สามารถเปลี่ยนเมนูเป็นภาษาอังกฤษได้ค่ะ
เมนูจะมีให้เลือกเยอะน้อยตามคอร์สที่เราสั่งถ้าใครที่สั่งคอร์สเนื้อก็จะมีเนื้อหรือมีเครื่องอาหารทะเลให้ด้วยแต่โอคซังเลือกคอร์สถูกสุดจึงมีหมู ไก่ และอาหารอื่นๆค่ะ เหมือนจะน้อยใช่มั้ยคะ ใช่ค่ะน้อย แต่อร่อยมากทานไม่หยุด
เนื้อหมูสไลด์บางแบบยางเฉียบนุ่มลิ้นแทบจะละลายในปากโอคซังทานกันสองคนกับคุณสามีเคยทำลายสถิติสูงสุดทานหมู26ถาด ถ้าใครที่ลองไปทานแล้วได้สูงสุดกี่ถาดมาแชร์กันได้ค่ะ ผักก็นุ่มและหวานมากทานแล้วนอกจากจะรู้สึกอร่อยก็ยังรู้สึกสุขภาพดีไปในตัว
นอกจากของสดที่สดและอร่อย อาหารเคียงทั้งหลายก็อร่อยมากๆเหมือนกันค่ะ มีทั้งซูชิหน้าต่างๆ เทมปึระ ข้าวโพดเนย ไก่ย่าง สลัด และอื่นๆอีกเยอะมากอาจถ่ายภาพมาให้ดูไม่หมด
โอคซังแนะนำแป้งห่อชีสทอด มันอร่อยมากๆร้องว้าวๆๆๆๆๆๆให้คะแนนทะลุร้อย เด็กทานได้ผู้ใหญ่ก็ติดใจ
โอคซังใช้เวลาทานบุฟเฟต์นี้ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งก็อิ่มมากๆแทบจะเดินไมไหว ร้านนี้เป็นร้านประจำที่เรามาทานจนพนักงานจำหน้าได้บางทีก็อายเกินกว่าจะไปทานบ่อยๆ แต่เวลาเดินผ่านหน้าร้านแล้วอดใจไม่ไหวทุกที นอกจากบุฟเฟ่ต์ชาบูแล้วจตามไปดูบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างบ้างดีกว่า
รีวิวร้านบุฟเฟ่ปิ้งย่างในดวงใจ
จริงๆโอคซังจะมี 2ร้านที่แนะนำคือ CHIFAJA กับร้าน Gyu-Kaku สองร้านนี้มีหลายสาขาในญี่ปุ่นเช่นกันค่ะรสชาติสูสีกันมากๆแต่เรื่องการบริการต้องยกให้Gyu-kakuค่ะ เสริฟอาหารตรงเวลา รวดเร็ว บริการแบบสุภาพสุดๆ ก่อนเข้าร้านบุฟเฟต์ปิ้งย่างในญี่ปุ่นต้องทำใจไว้เลยค่ะว่ากลิ่นจะต้องติดตัวออกมาแน่นอน ดังนั้นโอคซังจึงแนะนำให้เพื่อนพกหมวกอาบน้ำหรืออุปกรณ์กันกลิ่นควันแบบส่วนตัวกันไปไว้ก่อน ถ้าทำตามก็ไม่ว่ากันค่ะมองซ้ายมองขวาดีๆใจกล้าทำได้พนักงานเฉยๆ
โอคซังมีทั้งหมวกอาบน้ำและชุดคลุมฝนรวมถึงถุงพลาสติกที่เอาไว้ใส่เสื้อโค้ทที่เราถอดไม่ให้มีกลิ่นติดค่ะ กลัวคนญี่ปุ่นหาว่าบ้าเหมือนกันจนเริ่มไม่แน่ใจตัวเอง โดยปกติแล้วตรงแคชเชียร์จะมีน้ำยาดับกลิ่นแบบเสปรย์ไว้ให้ใช้หลังจากชำระเงินด้วยแต่โอคซังลองใช้มากี่ครั้งก็ดับกลิ่นได้ไม่หมดค่ะ
ร้านที่โอคซังนำภาพมาให้ชมในนี้คือจากร้านCHIFAJAนะคะ เมนูของทางร้านจะมีให้เลือกหลายคอร์สเช่นกันค่ะ มีตั้งแต่หมูไก่ธรรมดา หรือจะเป็นเนื้อวากิวมีหมด แต่เราก็ทานแบบเดิมๆคือหมูคอร์สพื้นฐาน โดยร้านนี้มีทีเด็ดที่น้ำจิ้มหลากหลายสไตล์ตามใจชอบ ถ้าใครที่เลือกไม่ถูกโอคซังแนะนำให้ลองหยดแล้วชิมมันทุกรสชอบแบบไหนก็เลือกจิ้มแบบนั้น จึงเป็นการทานที่สนุกสนานค่ะ
เนื้อที่มีให้เลือกมีหลายแบบมากๆแต่แบบที่โอคซังอยากแนะนำและสั่งมาทานมากที่สุดคือ ทงโทโร่ เวลาทานแล้วโอคซังชอบนึกถึงคอหมูย่างของไทยเนื้อนุ่ม ฉ่ำ อร่อยมาก
ถาดย่างของที่นี่จะเป้นแบบแก็สให้สังเกตดีๆนะคะว่าไม่มีถ้าไฟลุกท่วมไม่สามารถเอาน้ำแข็งใส่ลงไปได้นะคะ ถ้าเป้นร้านอื่นที่เป้นแบบถ่านแบบนั้นสามารถเอาน้ำแข็งถูที่ถาดเพื่อดับไฟได้ค่ะ
นอกจากเมนูเนื้อสดก็มีเมนูอาหารอื่นๆที่สามารถสั่งเพิ่มได้เหมือนกัน หม้อนี้จะเป็นข้าวหน้าชีสยืดๆต้องคนไปเรื่อยๆจนกว่าชีสจะละลายและหนึบเหนียวเข้าไปกับข้าว อร่อยสุดๆไปเลย
ส่วนกุ้งย้างเกลือนี้จะเป็นเมนูพิเศษเช่นกัน เนื้อแน่น เด้งดึ๋ง
ก่อนกลับทานขนมหวานล้างปากสักหน่อย
เปรียบเทียบระหว่างชาบูชาบูและปิ้งย่าง
แล้วเจอกันใหม่นะคะ
มาตะเน้
COMMENTS