หลายคนอาจจะคุ้นตาคุ้นหูกันดีกับป่าไผ่อาราชิยาม่า(Bamboo Forest)และวัดเท็นเรียวจิ(Tenryo-ji)สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากของจังหวัดเกียวโตที่ไม่ว่าใครก็จะต้องมาเที่ยวที่นี่ ป่าไผ่และวัดเท็นเรียวจิจะตั้งอยู่ในย่านอาราชิยาม่าทางทิศตะวันตกของเกียวโต ยิ่งในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีเป็นสีแดงแล้วหล่ะก็หากใครที่ได้มาเยี่ยมเยือนที่นี้จะได้เห็นบรรยากาศที่สวยงามจนลืมไม่ลงเลยหล่ะค่ะเพราะถือว่าเป็นสถานที่ที่โรแมนติกติดอันดับโลกกันเลย วันนี้โอคซังได้มาเที่ยวอาราชิยาม่าในช่วงหน้าร้อนอาจจะไม่ได้เห็นความงามแบบใบไม้แดงเท่าไรแต่ก็ได้เห็นความสดชื่นของสีเขียวของใบไม้ตัดกับสีของน้ำทะเลสวยงามไปในอีกแบบหนึ่งค่ะ
การเดินทางไปป่าไผ่อาราชิยาม่าและวัดเท็นเรียวจิ
ที่มา: https://www2.city.kyoto.lg.jp/kotsu/webguide/files/tikabusnavi/en_tikabusnavi_2.pdf
เนื่องจากว่าป่าไผ่และวัดเท็นเรียวจิอยู่ในย่านอาราชิยาม่าและยังสามารถเดินเชื่อมถึงกันได้เท่ากับว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกถึง2ตัว ก่อนอื่นต้องนั่งรถไฟJRไปลงสถานี ชื่อArashiyamaหรือนั่งบัสสาย93ไปลงสถานีชื่อArashiyama Tenryuji-mae(Randen Arashiyama Sta.)แล้วเดินเท้าต่อเข้าไปค่ะ
ไปเดินเล่นวัดเท็นเรียวจิ
หากเราดูจากในแผนที่แล้ววัดเท็นเรียวจิอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟหรือป้ายรถบัสเลยค่ะ
ทางเข้าจะอยู่ตรงนี้ค่ะสามารถซื้อตั๋วได้ที่ด้านใน
จริงๆแล้ววัดเท็นเรียวจิจะมีทางเข้า2ทางคือทางด้านสถานีรถไฟกับทางด้านที่เชื่อมกับป่าไผ่ ดังนั้นหากเพื่อนๆเข้ามาทางประตูด้านสถานีรถไฟก็สามารถเดินชมวัดเท็นเรียวจิแล้วค่อยทะลุออกไปอีกประตูนึงออกไปยังป่าไผ่ หรือหากเพื่อนๆเดินมาจากทางป่าไผ่ สุดทางของป่าไผ่ก็จะเป็นวัดเท็นเรียวจิค่ะ
เมื่อเข้ามาในวัดแล้วเราจะเจอกับสวนหินสไตล์เซนเรียบง่ายอยู่ทั่วบริเวณวัดล้อมรอบอาคารหลักที่สามารถเข้าไปได้ ซึ่งหากเราต้องการเข้าไปข้างในอาคารต้องจ่ายเงินค่าเข้าชมเพิ่มเค่ะ อาคารนี้คืออาคารที่ต้องเสียเงินเพื่อเข้าชมค่ะสามารถเดินภายในอาคารได้ค่ะ แต่วันนี้โอคซังไม่เข้าไปค่ะเพราะจะขอแค่ชมสวนก็พอค่าชมสวนโซนด้านนอกเองก็เสียเงินเช่นกันนะคะ
สวนหินที่ถูกตกแต่งไว้อย่างตั้งใจ
จุดเด่นของวัดเท็นเรียวจิอยู่ที่มีบ่อน้ำพร้อมสวนแบบญี่ปุ่นให้นั่งชมด้วยความเพลิดเพลินน้ำใสเห็นตัวปลา
ภาพจากอีกมุมของสวนค่ะ
ปลาคราฟที่นี่ไม่รู้ว่าหิวหรือยังไงพอเดินไปใกล้ๆบ่อว่ายมาหากันเต็มเลยค่ะน่าจะคุ้นเคยกับมนุษย์เป็นอย่างดี
ถ้าเราจ่ายเงินเข้าชมอาคารเราจะได้ขึ้นไปเดินอยู่บนอาคารไม้ด้านซ้ายมือนี้เลยค่ะ แต่โอคซังไม่ได้จ่ายเงินค่าเข้าก็เลยเดินเล่นอยู่ที่พื้นค่ะ
ภาพด้านหลังของอาคารค่ะ
เมื่อเดินไปบริเวณอื่นๆก็จะเจอกับพรรณไม้นานาชนิด วันที่โอคซังมาวันนี้เป็นหน้าร้อนค่ะเลยยังไม่เห็นความสวยงามของใบไม้แดง
แต่โอคซังจำได้ดีเพราะมาหลายครั้งมากๆ ในช่วงใบไม้แดงวัดนี้จะเต็มไปด้วยสีแดงของใบไม้ไปทั้งวัดเลยค่ะสวยมากๆๆๆๆ ยังไงถ้าใครมีโอกาสเที่ยวในฤดูใบไม้แดงไม่ต้องเสียดายเงินค่าเข้าชมรับรองว่าสวยงามแน่ๆ โอคซังเองก็จะแพลนว่าจะมาเก็บภาพใบไม้แดงในปีนี้ให้ชมอีกเหมือนกันค่ะ
ธารน้ำไหลเย็น
มุมที่นั่งพักสุดโรแมนติก
จุดโยนเหรียญเสี่ยงทายค่ะ วันนี้คนน้อยมากค่ะ ปกติคนแน่นต้องต่อแถวกันยาว
ด้านหลังของกบเสี่ยงท้ายมีรูปปั้นใครไม่รู้อยู่ด้วยค่ะไม่รู้ว่าพระพุทธเจ้าหรือเจ้าแม่กวนอิม
เมื่อเราเดินจนออกมาทางประตูด้านหลังทางนี้จะอยู่เชื่อมไปยังทางเดินป่าไผ่ค่ะ ใครที่เดินมาจากทางป่าไผ่สามารถเข้าทางประตูนี้แล้วเดินทะลุออกไปประตูด้านหน้าได้เช่นกันค่ะ
ป่าไผ่สูงโปร่งทอดยาวไปจนสุดลูกตาเป็นที่นิยมในการถ่ายภาพมากๆ
สิ่งหนึ่งที่เราไม่เคยรู้ก็คือป่าไผ่แห่งนี้ต้นไผ่ที่เราเห็นกันอยู่ถือว่าเป็นต้นไม้ที่ทางจังหวัดเกียวโตต้องการอนุรักษ์ไว้ค่ะ ต้นไผ่นี้จะเป็นไผ่แบบกอเดียวคือ1กอมี1ต้น ไม่เหมือนกับต้นไผ่ที่เมืองไทยนะค่ะที่1กอมีหลายต้น ดังนั้นการปลูกหรือการดูแลจึงแตกต่างกันมากค่ะกว่าจะได้พื้นที่ป่าไผ่ที่กว้างและสวยงามขนาดนี้ต้องใช้เวลานานขนาดไหนกันนะ
ทางเดินนี้เป็นทางเดินสั้นๆไม่ไกลค่ะแต่มีความสวยแบบตรึงตาตรึงใจสุดๆ
มีการทำรั้วกั้นแบบธรรมชาติทำจากกิ่งไม้และต้นไผ่
มองไปมุมด้านบนก็สวยงามมากๆค่ะ
และหากเราเดินไปจนสุดทางของป่าไผ่จะทะลุออกไปที่สวนสาธารณะและเชื่อมไปยังทะเลสาบริมน้ำได้ในที่สุดค่ะ
ถ้าเราเดินลงมาจากเขาเราจะเจอกับทางลงแบบนี้ค่ะ ในทางกลับกันถ้าเราขึ้นจากทางนี้ก็สามารถเดินไปจนถึงป่าไผ่ วัดเท็นเรียวจิได้เหมือนกันค่ะ
หากมีเวลาเหลือสามารถเดินเลาะชมริมแม่น้ำสายสำคัญสุดโรแมนติดจุดถ่ายรูปอันคึกคัก
เมื่อเราออกมาจากป่าไผ่แล้วเราจะสามารถเดินตามทางลงเขาไปเรื่อยๆเราจะเจอกับทะเลสาบใหญ่ได้ค่ะ เดินผ่านริมแม่น้ำแห่งนี้จะได้เห็นสีฟ้าของแม่น้ำตัดสีสลับกับสีเขียวของภูเขาได้แบบพอดีโรแมนติกอย่าบอกใครแบบนี้น่าจะพาคนรักมาเที่ยวพายเรือเล่นกันในแม่น้ำแห่งนี้ซะแล้ว
เราจะสามารถนั่งเรือชมความงามของที่นี่ได้หรือจะเลือกเรือแบบพายเองก็ได้ค่ะ ถือว่าเป็นกิจกรรมชิวๆที่น่าลองมากเลยนะคะ
เรือตรงนี้ก็น่านั่งนะคะแต่เรือแบบนี้จะมีคนพายให้ค่ะ
ท่าเรือจะอยู่ตรงนี้เลยค่ะ
จากการที่โอคซังได้ไปเที่ยวอาราชิยาม่ามาหลายครั้งยิ่งทำให้รู้สึกชอบสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดเกียวโตนี้ขึ้นไปอีกมากๆค่ะ ธรรมชาติของที่นี่จะมีความสวยงามเปลี่ยนแปลงไปในแบบต่างๆในแต่ละฤดูกาลที่ไม่เหมือนกัน ประกอบวัดแบบญี่ปุ่นที่มีอยู่ทั่วเมืองทำให้เกียวโตเป็นจังหวัดที่พิเศษไม่เหมือนใคร เกียวโตไม่ใช่เมืองที่เหมาะสำหรับการเดินช้อปปิ้งไปกับแสงสี แต่เป็นเมืองที่สงบ สนุก ลึกลับ และยังมีอีกหลายๆคาแร็คเตอร์ที่โอคซังยังเก็บไม่ครบ
แล้วไปเที่ยวด้วยกันอีกนะคะ
มาตะเน้
COMMENTS