ความลับของสวนหินวัดเรียวอันจิ(Ryoanji Temple)เกียวโต

วัดเรียวอันจิ(龍安寺,Ryoanji Temple)เป็นวัดในจังหวัดเกียวโตที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 500ปี มีสวนหิน15ก้อนที่เป็นเอกลักษณ์และเป็นอีกวัดที่มีชื่อเสียงเรื่องความสวยงามในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีมากๆ จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากUNESCO ดังนั้นนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกหากใครได้มาท่องเที่ยวญี่ปุ่นแล้วต้องห้ามพลาดการมาเยี่ยมชมวัดเรียวอันจิแห่งนี้นะคะ

วิธีเดินทาง

ที่มา:https://www2.city.kyoto.lg.jp/kotsu/webguide/files/tikabusnavi/en_tikabusnavi_2.pdf

กรณีเดินทางจากสถานีเกียวโตไปวัดเรียวอันจิให้นั่งรถบัสสาย 50 ลงที่สถานีสุดท้ายRitsumeikan Daigaku-mae(立命館大学前)　แล้วเดินเท้าต่อไปที่วัดค่ะ  หรือ นั่งใต้ดินสายคาราซุมะ(Karasuma)ขึ้นไปทางเหนือไปลงสถานี Karasuma Imadegawa แล้วต่อรถบัสสาย59ไปที่ Ryoanji-Mae โดยเพื่อนๆที่มีบัตรคันไซทรูพาสสามารถใช้ได้ทั้งหมดเลยค่ะทั้งใต้ดินและรถบัส

กรณีที่เดินทางมาจากที่อื่นๆสามารถนั่งบัสสาย12ไปลงที่ป้ายRitsumeikan Daigaku-mae(立命館大学前)แล้วเดินเท้าต่ออีกนิดแต่อาจจะเดินเหนื่อยหน่อยค่ะเพราะเป็นการเดินขึ้นเขา สำหรับใครที่กังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการใช้รถบัสแต่ไม่มีบัตรคันไซทรูพาสแนะนำให้ซื้อบัตรบัสเหมาวันราคา 600円 5สิ่งสำคัญกับการใช้บัตรบัสเหมาทั้งวัน(Kyoto bus One-day pass ticket)เกียวโตที่ต้องรู้

เปิดแผนที่นำทาง GPS googleไปวัดเรียวอันจิ (Ryoanji)>>> https://goo.gl/maps/TttcHSKMT6o

ค่าเข้าชมเท่าไร

ค่าเช้าชมวัดเรียวอันจิสำหรับผู้ใหญ่ราคา 500円　เด็กอายุต่ำกว่า15ปี 300円

เวลาเปิด-ปิดวัด

ช่วงมีนาคม-พฤจิกายนเปิดตั้งแต่ 8:00-17:00น.

ช่วงธันวาคม-กุมภาพันธ์เปิดตั้งแต่ 8:30-16:30น.

ความลับของสวนหินในวัดเรียวอันจิ

สวนหินในวัดเรียวอันจิมีหลากหลายความหมายที่แล้วแต่คนจะตีความ หนึ่งความหมายที่โอคซังเคยรู้มาคือในสวนหินนี้จะมีหินอยู่ทั้งหมด15ก้อนแต่ไม่ว่าเรานั่งมองในมุมไหนก็ไม่สามารถมองให้ครบทั้ง15ก้อนได้ บางคนก็มองเห็นเพียง13ก้อน 14ก้อนแล้วแต่ละคนไม่เหมือนกัน น้อยคนที่จะสามารถมองเห็นครบทั้ง15ก้อนค่ะ เปรียบเสมือนความไม่สมบูรณ์แบบของมนุษย์ทุกคน โอคซังคิดว่าโดยหลักๆแล้วความหมายของสวนหินนี้คนมานั่งพิจารณาความเป็นตัวเอง ให้มีสติและสมาธิตลอดเวลามากกว่าค่ะ

เข้าไปชมในวัดกันเลยค่ะก่อนอื่นซื้อตั๋วกันก่อนนะคะ

เมื่อเราได้รับตั๋วแล้วให้เราเก็บตั๋วนี้เอาไว้เพื่อใช้เข้าชมสวนหินที่อยู่ด้านในกันค่ะ เดินเข้าไปเลยค่ะบรรยากาศระหว่างทางจะร่มรื่นมาก

เมื่อเข้าไปด้านในเรื่อยๆเราจะเจอกับป้ายบอกทาง The Rock Garden นี่คือทางไปสวนหินแบบเซนที่เรารอคอยค่ะ

ทางเดินเพื่อขึ้นไปยังส่วนชมสวนค่ะทางเดินไม่ชันค่ะเดินสบายๆถ่ายรูปสวยด้วยค่ะมุมนี้ เมื่อเดินขึ้นไปจนสุดทางเดินเราจะเจอกับอาคารญี่ปุ่นเล็กๆที่เราต้องเอาตั๋วของเราแสดงกับเจ้าหน้าที่ตรงนี้ค่ะ

แสดงบัตรกับเจ้าหน้าที่แล้วเจ้าหน้าที่จะฉีกปลายตัวออกไปค่ะ และเราก็เดินเข้าไปในอาคารกันเลย

อาคารภายในถูกตกแต่งด้วยไฟสีส้มที่สะท้อนบนฉากภาษาคันจิที่อ่านไม่ออก แต่มันก็สวยงามดีนะ

บรรยากาศสวนส่วนที่ไม่ใช่สวนหินจะถูกปกคลุมด้วยต้นมอสถ้าเป็นแบบนี้ช่วงใบไม้แดงสวยมากแน่นอน แล้วจะไปเก็บภาพมาฝากอัพเดทกันให้ชมอีกทีค่ะ

อยากชมสวนหินเข้าเดินเข้าไปเจอคนกำลังนั่งชมสวนกันอยู่เยอะค่ะ ไม่มีที่นั่งเลย ไม่เป้นไรเราเดินชมเฉยๆก็ได้

บรรยากาศสวนหิน15ก้อนที่ต่างคนต่างมานั่งพิจาณาค่ะ เพื่อนๆที่ได้มาลองมานั่งนับกันดูค่ะว่าจะได้กี่ก้อน

รู้หรือไม่ว่าสวนหินเซนแห่งนี้มีการออกแบบที่พิเศษมากๆ

นอกจากศิลปะการจัดวางหินทั้ง15ก้อนให้อยู่ในตำแหน่งที่ผู้มาเยือนเมื่อนั่งชมแล้วจะมองหาไม่ครบแล้ว รู้หรือไม่คะว่าการออกแบบกำแพงที่ล้อมหินเอาไว้ก็ถูกออกแบบให้เป็นตัวช่วยให้สวนดูกว้างขึ้น

โดยการออกแบบกำแพงนี้ ความสูงของกำแพงส่วนที่ใกล้มุมที่จะมาบรรจบกันมีความสูงที่สั้นกว่ากำแพงด้านใกล้ตัวเราค่ะ แต่เรามองไม่ออกเลยใช้ไหมคะคิดว่ามันเท่ากันทั้งหมดแต่จริงๆแล้วมันไม่เท่ากันนะ!! คนออกแบบสวนแห่งนี้สุดยอดมากๆ

ผู้มีปัญหาทางสายตาก็สามารถชมสวนหินได้

ที่วัดเรียวอันจิจะมีการทำโมเดลจำลองพื้นที่ของสวนขึ้นมาเพื่อให้ชมและนับกันได้เลยค่ะว่าภายในสวนหินนี้มีหินก้อนใหญ่ทั้งหมด15ก้อนจริงๆนะ แต่การที่เรามองจากมุมมองนกมองผ่านทางโมเดลจำลองยังไงก็ต้องนับได้15ก้อนแน่นอนค่ะ ไม่เพลิดเพลินเท่านั่งมองด้านข้างของสวนพร้อมๆกับแข่งกันนับกับเพื่อนๆได้หรอกค่ะ

นอกจากจะตั้งโชว์ให้เห็นการภาพรวมการออกแบบของสวนแล้ว โมเดลนี้ยังมีไว้เพื่อคนที่มีปัญหาทางสายตาได้เพลิดเพลินและจินตนาการได้ค่ะว่าสวนแห่งนี้เป็นอย่างไร โดยผู้มีปัญหาทางด้านสายตาสามารถสัมผัสได้ค่ะถือว่าเป็นการออกแบบเพื่อทุกคนอย่างแท้จริงเลย

ความรู้สึกโดยรวมกับวัดเรียวอันจิ

วัดเรียวอันจิเป็นวัดที่อยู่แถบวัดทองดังนั้นใครที่วางแผนจะเที่ยวแถวนั้นถือว่าเป็นวัดที่ควรไปค่ะ เพราะจะทำให้เราได้สัมผัสถึงความเป็นญี่ปุ่นแท้ๆในแบบที่มีมีนานหลายร้อยปี ถ้าใครที่มีเวลาเหลือลองเดินเล่นวัดนินนาจิ(Ninna-ji Temple)เกียวโต(Kyoto)ชมสวนหินแบบเซนสวยงามเรียบง่ายหรือเดินเล่นชมวัดคินคะคุจิ(Kinkakuji)หรือวัดทองในภาพความฝันกับความเป็นจริง!ต่างกันอย่างไร

แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้านะคะ

มาตะเน้