หลายคนที่เที่ยวเกียวโตคงรู้จักวัดยอดนิยมทั้งหลายกันมาแล้วทั้งวัดน้ำใส(Kiyomizu-dera) วัดเงิน(Ginkakuji) วัดทอง(Kinkakuji) หรือศาลเจ้าจิ้งจอกเสาแดงฟุชิมิอินาริ(Fushimiinari)กันมาแล้ว หลายคนอาจจะยังไม่รู้จักวัดเอกันโดะ(Eikando Zenrin-ji Temple)ที่มีอายุมากกว่า1,200ปี ที่อยู่ระหว่างวัดเงิน(Ginkaku-ji)และNanzenji Temple โดยทั้งท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะเดินเลยวัดนี้กันไปซะหมดทั้งๆที่วัดเอกันโดะมีความสวยงามและมีชื่อเสียงมากในด้านการเป็นจุดชมใบไม้แดงและที่สำคัญ!เราสามารถชมใบไม้แดงจากในวัดนี้ได้ตั้งแต่ช่วงฤดูร้อนเลยค่ะไม่ต้องรอให้ถึงเดือนพฤศจิกายนสุดยอดไปเลยใช่มั้ยคะ วัดแห่งนี้จะเป็นอย่างไรไปชมกันได้ค่ะ
- วัดเอกันโดเซ็นรินอยู่ระหว่างวัดเงินและวัดนันเซนจิเดินทางได้ง่ายๆ
- ค่าเข้าชมวัด
- ชมบรรยากาศความสวยงามของวัดเอกันโดเซ็นรินกับใบไม้แดงในช่วงหน้าร้อน
- ไปจุดชมวิวเมืองเกียวโตที่หอคอยปฏิบัติธรรมบนเขาสูง
- ชมบรรยากาศธรรมชาติภายในวัดเจอใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูร้อนด้วย!
- ข้อระวัง ห้ามถ่ายรูปในวัดทั่วทุกบริเวณในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี!!
วัดเอกันโดเซ็นรินอยู่ระหว่างวัดเงินและวัดนันเซนจิเดินทางได้ง่ายๆ
ภาพทางเดิน Philosopher’s Path ในช่วงหน้าร้อน
หากใครที่เที่ยวเกียวโตทางโซนตะวันออกคงจะรู้จักทางเดินPhilosopher’s pathกันเป็นอย่างดี วัดเอกันโดะเซนรินนี้จะอยู่ปลายทางของเส้นทางถนนนี้ค่ะก่อนถึงวัดนันเซนจิ( Nanzenji-Temple)
ถ้าเรากำลังจะเดินผ่านวัดนี้แล้วให้เราสังเกตค่ะวัดนี้จะมีทางเข้าที่ยาวมากถ้ามองเข้าไปอาจจะคิดว่ามันไม่มีอะไรแต่ด้านในจะมีประตูทางเข้าอีกชั้นหนึ่งค่ะ
ให้เราเดินตรงเข้าไปจนกว่าจะเจอกับประตูแบบนี้ค่ะ
เปิดแผนที่นำทางไปวัดเอกันโดเซ็นริน https://goo.gl/maps/mNhhyEgJfUx
ค่าเข้าชมวัด
สำหรับค่าเข้าชม ผู้ใหญ่600เยน เด็ก400เยน
เวลาเปิดทำการ 9:00-16:00น.
ชมบรรยากาศความสวยงามของวัดเอกันโดเซ็นรินกับใบไม้แดงในช่วงหน้าร้อน
ปกติใบไม้แดงของญี่ปุ่นจะเริ่มกันในเดือนพฤศจิกายนแต่สำหรับวัดเอกันโดเซ็นรินเราจะสามารถเห็นได้ตั้งแต่ในช่วงหน้าร้อนเดือนกรกฎาคมเลยค่ะ ซึ่งวัดแห่งนี้มีชื่อเสียงเรื่องความสวยงามของใบไม้แดงมากๆที่นักท่องเที่ยวไม่ค่อยรู้จัก ถ้าใครที่อยากเห็นใบไม้แดงแบบเต็มๆแนะนำให้ลองมาวัดนี้ในช่วงใบไม้แดงจะประทับใจแน่ๆค่ะ
เมื่อเราเข้ามาภายในวัดแล้วความรู้สึกแรกที่รู้ก็คือบริเวณพื้นที่วัดค่อนข้างกว้างมากๆค่ะ ซึ่งถ้าเรามองจากข้างนอกมาจะไม่มีทางรู้เลยค่ะและอาจจะทำให้เรามองข้ามวัดนี้ไปได้ง่ายๆ แนะนำให้เช้ามาสำรวจนะคะ
ลานกว้างหลักค่ะ
ประตูทางเข้าหลักที่สามารถเชื่อไปยังอาคารต่างๆภายในบริเวณวัดค่ะ ซึ่งภายในอาคารไม่สามารถถ่ายรูปค่ะ แต่อยากจะบอกว่ามันสวยมาก มันดีมาก บรรยากาศญี่ปุ่นสุดๆ ทุกอาคารจะแยกออกจากกันตั้งลดหลั่นตามไหล่เขาและอาคารถูกเชื่อมเข้าด้วยกันด้วยทางเดินไม้ ถ้าใครที่อยากเดินสำรวจทุกอาคารต้องเหนื่อยแน่ๆค่ะเพราะวัดนี้เขากว้างมากจริงๆ
ทางเดินเพื่อเชื่อมไปสู่หอคอยปฎิบัติธรรมค่ะ จะสังเกตว่าเริ่มมีใบไม้แดงด้านข้างๆด้วยค่ะ ตลอดทางทั้งหมดนี้คือต้นเมเปิ้ล นึกภาพไม่ออกเลยค่ะว่าถ้าเข้าสู่ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีเป็นสีแดงจะสวยงามมากขนาดไหน
ไปจุดชมวิวเมืองเกียวโตที่หอคอยปฏิบัติธรรมบนเขาสูง
เดินไปเรื่อยๆให้มองทางซ้ายมือเข้าไว้จะเจอกับทางเข้าที่เขียนว่าPagodaใช้เวลาจากจุดนี้เดินไปที่หอคอยค่ะ โอคซังไปมาแล้วเหนื่อยมากๆใช้เวลาเกิน5นาทีค่ะ คนที่ใช้5นาทีนี่คงวิ่งขึ้นไปค่ะ เพราะหอคอยสูงมากต้องเดินขึ้นบันไดขึ้นไปเรื่อยๆจึงไม่แนะนำสำหรับผู้สูงอายุค่ะเพราะทางค่อนข้างชั้นอันตรายค่ะ
ระหว่างทางที่เดินมาไม่มีคนเลยค่ะแอบน่ากลัวเล็กๆ
เย้!ถึงที่หมายแล้วค่ะ เขาว่ากันว่าจุดนี้เป็นจุดชมวิวที่สวยมากๆน้อยคนนักที่จะขึ้นมาค่ะ
เมื่อขึ้นมาแล้วจะมีที่ให้นั่งพักคลายเหนื่อยค่ะ ลมแรงดีค่ะสบายจนอยากนอนหลับ
เมื่อมองออกไปจากจุดพักผ่อนจะเห็นกับวิวเมืองเกียวโตที่สวยงามมากค่ะ
นั่งชิวได้สบายมาก
เห็นวิวเมืองเกือบทั้งหมดเลยค่ะจริงๆด้านซ้ายสุดจะเห็นเกียวโตทาวเวอร์ด้วยนะคะแต่กล้องของโอคซังแคบเกินไปที่จะเก็บภาพมาได้หมดค่ะ สวยงามจริงๆ
ชมบรรยากาศธรรมชาติภายในวัดเจอใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูร้อนด้วย!
เมื่อเราเดินลงมาจากหอคอยแล้วเราสามารถเดินชมบริเวณรอบๆวัดได้ค่ะ ทั้งวัดไม่ค่อยมีคนจริงๆค่ะ เงียบสงบและสวยงามมาก
อาคารนี้เป็นอีกอาคารที่เชื่อมกับอาคารอื่นๆด้วยทางเดินไม้
เดินมาเรื่อยๆจนเริ่มเห็นสีแดงๆส้มๆของใบไม้แล้วค่ะ
บรรยากาศดีมากค่ะ น้ำใสสุดๆ สวยสลบไปเลย
ลานกว้างอีกลานหนึ่งค่ะ บรรยากาศดีไม่แพ้กัน
จุดถ่ายรูปสวยๆค่ะ
ความชุ่มช่ำของธารน้ำในวัดค่ะ
ธารน้ำอีกข้างหนึ่งค่ะ
ข้อระวัง ห้ามถ่ายรูปในวัดทั่วทุกบริเวณในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี!!
ใครเคยมีคำถามไหมคะว่าทำไมญี่ปุ่นถึงสามารถรักษาคุณภาพการให้บริการที่ดีได้? เพราะว่าในญี่ปุ่นจะมีคอนเซบว่า 日本おもてなし(นิฮอนโอโมเทะนาชิ)หมายถึงความร่วมมือระหว่างเจ้าบ้านและผู้มาเยือน เมื่อเจ้าบ้านมอบบริการที่ดีลูกค้าเองก็ต้องเป็นผู้รับบริการที่ดีเช่นกัน สำหรับคำนี้เป็นคำที่นักท่องเที่ยวอย่างเราๆควรทำความเข้าใจในวัฒนธรรมตรงนี้ให้ดีค่ะ
ซึ่งในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีหรือใบไม้แดงของวัดหลายแห่งในเกียวโตรวมถึงวัดเอกันโดเซนรินจิเช่นกันที่จะห้ามถ่ายรูปในทุกบริเวณของวัดเพราะคนในช่วงนี้จะเยอะมากจะมีป้ายติดไว้ในทุกๆที่แต่นักท่องเที่ยวหลายคนหรือแม้แต่คนญี่ปุ่นเองก็ยังไม่ร่วมมือในจุดนี้ยกอุปกรณ์ขึ้นมาถ่ายภาพกันอย่างมากมายจนออกข่าวทีวีอยู่บ่อยๆ เพราะฉะนั้นสำหรับใครที่อยากมาเที่ยวชมที่นี่สามารถมาชมความงามและถ่ายภาพเป็นที่ระลึกได้ก่อนช่วงใบไม้เปลี่ยนสีเลยค่ะ
ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆใกล้เคียงอีกมากมายอ่านรีวิวกันได้ค่ะ [ที่เที่ยวTop7ของเกียวโตตะวันออกฝั่งวัดน้ำใสและรอบๆเที่ยวได้ใน1วัน[แนะนำ]]
แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้านะคะ
มาตะเน้
COMMENTS