เที่ยวงานเกียวทานาบาตะในเกียวโตกับชุดยูกาตะหน้าร้อนสมใจ

ใครเคยเดินเที่ยวงานเทศกาลเกียวทานาบาตะบ้างคะยกมือขึ้น แล้วยังจำบรรยากาศภายในงานกันได้ไหมเอ่ย วันนี้เรามาย้อนรำลึกงานเทศกาลแห่งการอธิษฐานด้านความรักของชาวญี่ปุ่นที่มีชื่อว่างานเกียวทานาบาตะที่คลองโฮริคาวะ(Horikawa river)กันดีกว่าค่ะ เพื่อความสนุกสนานที่ทวีคูณโอคซังกับเพื่อนได้เช่าชุดยูกาตะเพื่อมาใส่เดินเที่ยวในงานครั้งนี้กันอีกด้วยค่ะ เพราะฉะนั้นนอกจากจะรีวิวการเช่าชุดยูกาตะแล้วยังได้รีวิวงานเกียวทานาบาตะให้ชมกันด้วยค่ะว่าจะสวยงามขนาดไหน

งานเกียวทานาบะตะ京の七夕คืออะไร

เทศกาลทานาบาตะที่มีอยู่ทั่วทั้งญี่ปุ่นมีความเชื่อแรกเริ่มมาจากการอธิษฐานให้เจ้าหญิงทอผ้าและคนเลี้ยงวัวที่ได้รักกันแต่ความรักก็ไม่สมหวังจนสุดท้ายทั้งคู่ต้องแยกจากกัน แต่ทั้งคู่จะได้กลับมาพบกันอีกครั้งที่ทางช้างเผือก1ครั้งใน1ปีในวันที่7 เดือน7ของทุกปี งานเกียวทานาบาตะจึงเป็นงานที่ผู้คนต่างพากันมาอธิษฐานเพื่อให้เจ้าหญิงทอผ้ากับคนเลี้ยงวัวได้กลับมาพบกันอีกครั้ง หรือบางคนก็ขอให้คำอธิษฐานของตัวเองเป็นจริงก็มี

งานเกียวทานาบาตะในแบบฉบับเกียวโตจัดขึ้นประมาณวันที่5-11 เดือน8(ต้นสิงหาคม)ตอนกลางคืน (ไม่ได้จัดขึ้นในเดือน7เหมือนที่อื่นๆ)งานนี้จะจัดขึ้นเพื่อให้ผู้ที่เข้าร่วมสามารถเขียนคำอธิษฐานแขวนไว้ที่กิ่งไผ่ พร้อมทั้งจัดเป็นงานอิลูมิเนชั่นแสงสียามค่ำคืนแบบสวยงามมากๆ

มาเช่าชุดยูกาตะที่ร้านYumeyakataเพื่อใส่เดินเที่ยวกันก่อนค่ะ

วันนี้หลังจากที่เสร็จภารกิจเช่าชุดกิโมโนญี่ปุ่น2แบบใน1วันที่ร้านYumeyakata,Oikeเกียวโตแบบชิลๆก็เช่าชุดยูกาตะออกมาเที่ยวกันค่ะเราเริ่มแต่งตัวชุดยูกาตะกันประมาณ16:00น.ค่ะ แต่งตัวเสร็จและพร้อมออกประมาณ17:00น. ค่ะ แต่เพราะร้านอยู่ใกล้กับงานมากๆก็เลยถ่ายรูปกันภายในร้านและนอกร้านแบบเรื่อยๆเลยค่ะ(งานเริ่ม19:00น.)

โดยต้องทำการเชคอินที่เคาน์เตอร์ก่อนค่ะ แจ้งชื่อและเวลาที่จองมา

แล้วก็เข้ามาภายในร้านเพื่อเลือกชุดยูกาตะที่ชอบ สำหรับหน้าร้อนโอคซังแนะนำให้เลือกสีชุดที่สดใสเย็นสบายให้ความรู้สึกหน้าร้อนค่ะ

การเลือกเข็มขัดโอบิก็ควรเลือกที่สีตัดกันโดยยังยึดสีเล็กๆที่มีอยู่ในชุดของเราจะได้ดูไม่แปลกแตกต่างค่ะ

เมื่อเลือกชุดกันจนครบแล้วจะต้องขึ้นไปแต่งตัวอีกห้องหนึ่งนะคะ สตาฟจะเป็นคนพาไปค่ะ เดินตามอย่างเดียวเลย

แต่งเสร็จแล้วสวยงามมากๆ สำหรับทรงผมหากใครใช้บริการที่ร้านก็จะเป้ะมากๆสวยมาก แต่ถ้าใครอยากทำผมเองก็สามารถทำได้เช่นกันค่ะเพื่อความรวดเร็วค่ะควรทำก่อนเข้ามาที่ร้านเลยค่ะ ทรงผมที่แนะนำเป็นทรงที่ก้าวผมขึ้นไปเพื่อโชว์ต้นคอค่ะ เพราะนี้คือจุดเด่นของชุดแบบญี่ปุ่นที่สามารถโชว์ความเซกซี่เล็กๆตรงนี้ได้

พัดคืออุปกรณ์คลายร้อนและประกอบฉากที่ดีที่สุดค่ะ

พร้อมออกเดินทางไปงานเกียวทานาบาตะแล้วค่ะ

ราคาเช่าชุดยูกาตะเท่าไร

หลังจากที่เราแต่งตัวและถ่ายรูปในร้านกันแล้วค่าเช่าชุดยูกาตะที่เช่าวันนี้ได้ราคาโปรโมชั่นประมาณ3,500เยนต่อคนค่ะแต่โอคซังได้ยินข่าวมาว่าตอนนี้ที่ร้านมีโปรโมชั่นเยอะมากและปรับราคาใหม่ถูกลงไปอีกไม่ถึง3,000เยนนะคะต้องลองดูในเวปไซต์ร้านค่ะเสิชกันดูได้ค่ะ

เดินทางไปที่Horikawa riverกันเลยค่ะ

จากในแผนที่จะเห็นว่าใกล้มากๆ โดยแม่น้ำโฮริกาวะ(Horikawa river)จะอยู่แถวๆข้างหน้าปราสาทนิโจ(Nijo-castle)ค่ะใช้เวลาเดินไปประมาณ15นาทีค่ะแบบช้าๆ ถ่ายรูประหว่างทางไปด้วย

รองเท้ากับกระเป๋าทางร้านก็มีให้ยืมค่ะ

ชุดยูกาตะค่อนข้างใส่สบายค่ะขยับตัวได้คล่องมากๆ

โบว์ข้างหลังเป็นทรงสวยมากค่ะ ไม่มีเบี้ยวเลยจนกลับถึงบ้านโบว์ด้านหลัวก็ยังสวยไม่กล้าถอดออกเลยค่ะ

จะเห็นว่าหิ้วถุงใบใหญ่กันมาด้วยเนื่องจากพวกเราเลือกบริการคืนชุดในวันถัดไปทางไปรษณีย์ค่ะจึงต้องเอาชุดที่ใส่มาใส่ในถุงแล้วหิ้วกันไปด้วยค่ะเพราะเราจะไม่กลับมาที่ร้านแล้วค่ะ

งานทานาบาตะเกียวโตจัดที่คลองโฮริกาวะ(Horikawa)

เมื่อเราเดินมาเรื่อยๆจนถึงที่งานทำให้เรารู้ว่าอากาศนั้นร้อนมาก คนก็เยอะมากๆ หน้างานจะมีพัดแจกให้ต้องรีบหยิบนะคะเพราะทางเดินในงานจะเป็นทางเดินแบบวันเวย์(One-way)และจะไม่มีพัดแจกอีกแล้วถ้าไม่หยิบมาเป็นลมแน่ๆ ถึงอากาศจะร้อนมากๆแต่บรรยากาศสวยงามมากๆค่ะก่อนอื่นหาทางเข้างานให้เจอค่ะเพราะเจ้าหน้าท่ีจะปิดทางลงหลายที่บังคับเปิดทางเข้างานแค่ประตูเดียว

เจอทางเข้างานค่ะแล้วค่ะ

แผนที่ภายในงานค่ะ จะเห็นว่าตลอดเส้นคลองจะมีการจัดงานยาวมากๆ

คนเยอะมากๆค่ะแต่หยุดเดินไม่ได้ต้องไหลตามฝูงชนค่ะ

คนเยอะมากจริงๆค่ะ

เดินไปเรื่อยๆจะเจอโซนที่สามารถเขียนคำอธิษฐานของเราแขวนไว้ที่กิ่งไผ่ได้เลยค่ะ

เดินผ่านทางหลอดไฟสวยๆค่ะ ในงานคนถ่ายรูปเก็บไว้กันเยอะมากๆแต่ถึงยังไงก็ไม่สุขใจเท่าเก็บด้วยสายตาและจำด้วยหัวใจของเราเองค่ะต้องมาเที่ยวกันให้ได้เลยนะคะ

ทุกๆคำที่เขียนลงบนโคมไฟจะมีความหมายค่ะเช่นเป็นชื่อสถานที่หรือคีย์เวิร์ดสำคัญของงานเกียวทานาบาตะค่ะ

เดินลอดอุโมงไปค่ะจะเจอไฮไลท์ของงานอีกเยอะเลยค่ะ อย่าหยุดเดินนะคะ

อุโมงค์แสงสีที่จำลองทางช้างเผือกค่ะ

โดยอุโมงค์สามารถเปลี่ยนสีไปมาแบบนุ่มละมุนมากๆพร้อมเสียงดนตรีญี่ปุ่นประกอบเบาๆทำให้บรรยากาศภายในอุโมงค์มันโรแมนติกมาก

หลังจากนั้นเราจะเจอทางเดินทอดยาวที่สองข้างทางเต็มไปด้วยกิ่งไผ่และคำอธิษฐานเป็นอะไรที่น่ารักมากๆค่ะ

เมื่อเราผ่านทางเดินคำอธิษฐานมาแล้ว อีกหนึ่งอย่างที่ทำให้ตกตะลึงในความสวยงามคือผ้าทอนิชิจินที่ใช้ทำชุดกิโมโนทอดยาวไปตามลำน้ำที่แสดงถึงสาวทอผ้าค่ะ ของจริงสวยมากๆค่ะ

หลังจากนี้ยังต้องเดินไปอีกไกลเลยนะคะ แต่พวกเราหิวข้าวและร้อนกันมากๆเพราะตอนแรกบางคนก็ไม่ได้หยิบพัดมาทำให้ล้ามากๆเลยขอชมงานเพียงเท่านี้ค่ะเพราะฉะนั้นถ้าใครที่จะมาเที่ยวงานเทศกาลแบบนี้ต้องเตรียมตัวมาดีๆนะคะ

1. เตรียมร่มมาเพราะฝนอาจจะตกโดยควรเชคพยากรณ์อากาศก่อนออกมา
2. เตรียมพัดมาด้วยเพราะอากาศจะร้อนมากๆจริงๆค่ะ
3. เตรีมยยาดมแบบไทยๆเผื่อว่าเราจะเหนื่อยมาก
4. ทานอาหารกันมาก่อนเข้างาน

สรุปความเห็นในทริปนี้

สนุกและมีความสุขมากๆค่ะถึงแม้ว่าอากาศจะร้อนแต่ก็ได้สัมผัสความเป็นญี่ปุ่นแบบแท้ๆ ได้ชมเทศกาลสำคัญของชาวเกียวโตทำให้เรียนรู้มากขึ้นถึงความละเมียดละไมใส่ใจในเทศกาลของคนญี่ปุ่นมากๆค่ะ โดยเฉพาะที่เกียวโตแห่งนี้ไม่ว่าเที่ยวกี่ครั้งก็หลงรักในทุกครั้งไป

พิกัดการจองชุดค่ะสามารถอินบอคถามที่ร้านในfacebookได้เลยค่ะชื่อ ร้านเช่ากิโมโนยูเมะยะกาตะ เกียวโต Yumeyakata

แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้านะคะ

มาตะเน้