รีวิว เช่าชุดยูกาตะในเกียวโตแบบเต็มๆ

หน้าร้อนใกล้เข้ามาแล้วมีใครกำลังมองหาที่เช่าชุดกิโมโนกันอยู่รึปล่าวคะ? วันนี้โอคซังไม่ได้พาเพื่อนๆมาเช่าชุดกิโมโนนะคะ แต่จะพามารีวิวเช่าชุดยูกาตะหน้าร้อนในญี่ปุ่นกันค่ะ(ถ้าเลือกเช่าชุดกิโมโนคิดว่าเป็นลมก่อนแน่ๆเพราะมีหลายชั้นมาก)แล้วแบบนี้จะเช่าได้ที่ไหนดี? ราคาเท่าไร? นอกจากวันนี้จะมาไขข้อข้องใจเรื่องการเช่าชุดแล้วยังแถมรีวิวเดินเล่นงานวัดกันด้วยค่ะก็คืองานเทศกาลขอพรในวัดทั่วเกียวโตที่คนญี่ปุ่นจะออกมาขอพร เดินเล่น และเพลิดเพลินไปกับของกินน่าอร่อยในงานวัดกันแบบครึกครื้น เป็นอย่างไรไปชมกันเลย

ชุดยูกาตะหน้าร้อนมีบริการให้เช่าช่วงไหนและเช่าได้ที่ไหนอย่างไร?

-ชุดยูกาตะสำหรับเช่ามีเฉพาะ3เดือนเท่านั้น ช่วงกลางเดือน พ.ค.- กลางเดือน ก.ย. (ฤดูร้อนของญี่ปุ่น) เท่านั้น ในขณะที่กิโมโนมีให้เช่าตลอดปีหรือแบบขายก็มีค่ะสามารถซื้อกลับบ้านได้เลยทั้งชุดกิโมโนและยูกาตะค่ะ และทั้งชายและหญิงจะเรียกชุดว่ากิโมโนกับยูกาตะเหมือนกัน

-โอคซังจองคิวไปที่เวปไซต์จองร้านยูเมะยะกาตะ(Yumeyakata)ค่ะ โปรโมชั่นเขาเยอะมากมาย กิโมโนให้เช่าก็มีค่ะ แต่เพราะกิโมโนมีความหนาหลายชั้นมากกว่าชุดยูกาตะคนญี่ปุ่นเองจึงไม่นิยมใส่ชุดกิโมโนในหน้าร้อนกันยกเว้นว่าต้องไปออกงานแบบจริงๆจังๆ ในหน้าร้อนนี้โอคซังเองจึงอยากแนะนำเป็นชุดยูกาตะจะสบายตัวมากกว่าค่ะซึ่งวันนี้โอคซังได้จองเช่าชุดยูกาตะอย่างเดียวไม่ได้จองทำผมและแต่งหน้าคิดว่าทำผมแต่งหน้าเองประหยัดได้เยอะเลยเลยค่ะหรือสอบถามเข้าไปที่เฟสบุคร้านได้เลยค่ะ https://www.facebook.com/Kyoto.Yumeyakata.Thai/?fref=ts

วิธีเดินทางไปที่ร้านเช่าชุดกิโมโนยูเมะยะกาตะสาขาโกโจGojo เกียวโต

เมื่อวันที่จองมาถึงก็เดินทางไปที่ร้านเลยค่ะ จากเกียวโตสเตชั่น(Kyoto Station) นั่งรถไฟใต้ดินสาย Karasuma มา1สถานี ลงสถานีชื่อ Gojo แล้วออกทางออกที่1 เดินตรงไปเรื่อยๆประมาณ2บลอค ก็เจอกับร้านพอดีค่ะ

มองเห็นป้ายทางออกอยู่ไม่ไกลค่ะ

ทางออกที่1เลี้ยวขวาแล้วเดินขึ้นบันไดไปได้เลยค่ะ

เข้าไปในร้านได้เลย (วันนี้จองมาที่เวลา 14:00น.) เมื่อเข้ามาถึงภายในร้าน ก็เดินขึ้นไปยังชั้น2 เพื่อเชคอินตามคิว และเลือกชุด ระหว่างทางที่จะเดินไปเลือกชุดยูกาตะจะมีชุดกิโมโนวางเรียงรายไว้ให้เลือกเช่นกัน แต่วันนี้เดินผ่านไปเลือกชุดยูกาตะกันเลยเพราะอากาศร้อนมากๆ 36องศาเซลเซียสโดยประมาณใส่ชุดกิโมโนไม่ไหวค่ะ เพราะกิโมโนต้องใส่ทั้งหมด3ชั้น(ไม่รวมเสื้อชั้นใน) แต่ชุดยูกาตะใส่ทั้งหมด 2ชั้น(ไม่รวมเสื้อชั้นใน)

ประตูห้องเลือกชุดชั้น 2 ก่อนอื่นลงทะเบียนเชคอินกันก่อนนะ

เคาน์เตอร์ต้อนรับภายในร้านค่ะ พนักงานสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ค่ะ แต่ถ้าใครที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ทางร้านก็มีพนักงานคนไทยมาช่วยค่ะ​​

ตอนที่ลงทะเบียนก็แจ้งชื่อที่จองเข้ามากับเวลาที่จอง ที่เคาน์เตอร์ได้เลย ทางร้านจะแจกถุงสีแดงให้ใส่รองเท้าและของที่เราแบกมา และถุงสีแดงนี้จะเป็นถุงที่เราถอดเสื้อผ้าใส่แล้วฝากไว้ที่ร้านและต้องกลับมาร้านเพื่อเปลี่ยนชุดคืน ก่อนเวลา19:30น. ถ้าคืนไม่ทัน แล้วมาในวันรุ่งขึ้นต้องเสียค่าปรับ 1,080เยนค่ะ

​​

บรรยากาศภายในร้าน ตอน14:00น. ไม่นานคนก็ตามเข้ามาเยอะๆมากๆค่ะ ระหว่างเดินไปเลือกชุดยูกาตะก็เดินผ่าน ชุดแบบอื่นๆ

กิโมโนพรีเมี่ยม ฟุริโซเดะ ช่วงหน้าร้อนจัดโปรลดทุกแบบเหลือ 10,000เยน ดีไปอีก แต่ร้อน! ไม่สู้ค่ะเพราะกิโมโนแบบฟุริโซเดะจะใส่หลายชั้นมากๆค่ะ เป็นลมแดดก่อนแน่นอน

​​

เดินผ่านชุดยูกาตะของผู้ชายลายสวยเหมือนกันนะ ตื่นเต้นแล้วสิแล้วลายของผู้หญิงจะเป็นแบบไหนกันนะ

เดินมาถึงโซนของตัวเองจนได้ เลือกชุดยูกาตะของเรากันเลย!!

ลายสีสันสดใสเยอะมากๆ เลือกไม่ถูก

​​

สีฟ้าก็สวยดีนะ ดูแล้วสดใสเข้ากับหน้าร้อน

​​จากนั้นก็มาเลือกเข็มขัด(โอบิ)กันเลย โดยเข็มขัดจะมี2แบบ แบบโบว์ใหญ่อลังกาลหรือโบว์เล็ก ส่วนตัวชอบโบว์ใหญ่ๆค่ะ เพราะช่วยพรางส่วนสะโพกไม่ให้ดูใหญ่​​

มุมเลือกเข็มขัดโบว์ใหญ่

หุ่นตัวอย่างในร้านที่ถ้าใส่เข็มขัดโอบิแบบใหญ่จะออกมาเป็นแบบในรูปค่ะ

มุมเลือกเข็มขัดแบบโบว์เล็กค่ะ จะแขวนอยู่ในไม้แขวนสีดำค่ะ

ตัวอย่างเข็มขัดโอบิแบบโบว์เล็กค่ะ ถ่ายมาจากหุ่นในร้าน

วิธีจับคู่สีเข็มขัดโอบิกับชุดยูกาตะ

   

การจับคู่สีเข็มขัดโอบิกับชุดไม่ยากเลยค่ะ ก่อนอื่นให้เลือกชุดที่เราอยากใส่ออกมาก่อนจากนั้นก็ดูในชุดค่ะว่ามีรายละเอียดสีเล็กๆบนชุดสีอะไรบ้าง เช่นเลือกชุดสีขาวมีลายดอกไม้สีแดงที่มีเกสรสีเหลือง แบบนี้เราก็สามารถเลือกเข็มขัดโอบิสีแดงหรือสีเหลืองก็ได้ค่ะ แนะนำให้หยิบมาจับคู่กันแล้วถ่ายรูปไว้แล้วค่อยมาเลือกดูจากรูปในมือถือค่ะจะสามารถเลือกได้ง่ายขึ้นมากๆๆๆ

 

พอเลือกชุดและเข็มขัดแล้ว ตอนนี้ก็มาเลือกเชือกคาดโอบิกันต่อ เชือกอันนี้จ่ายเงินเพิ่มไป200เยน ได้ความสบายใจที่เข็มขัดด้านหน้าไม่โล้นไป ถ้าหากดูจากตัวหุ่นจะออกมาคล้ายๆแบบนี้ค่ะ

ยูกาตะสำหรับขายก็มี เพื่อคนอยากซื้อกลับบ้าน

​​สำหรับคนที่อยากซื้อชุดยูกาตะกลับบ้านไปเลยทางร้านเขาก็มีขายนะคะ ราคาเริ่มต้นที่ 5900เยน เซตนี้ได้ครบเลย ทั้งชุดเข็มขัด รองเท้า กระเป๋า แถมมีบริการแต่งตัวให้ฟรีอีกด้วย จริงๆราคาไม่แพงเลย เพราะเห็นร้านชิมามุระก็ขายราคานี้เท่ากันแต่ไม่มีแต่งตัวให้ ต้องแต่งเอง ถ้าใครที่อยากซื้อชุดกลับบ้านและได้แต่งตัวด้วย แนะนำจริงๆค่ะ

​​เข็มขัดสำหรับขายเลือกได้เลยจะเห็นว่าข้างใต้ชั้นก็จะมีชุดซับใน(ราคาประมาณ2,200เยน จำไม่ได้ค่ะประมาณนี้)ขายอยู่เช่นกัน

​​เชือกคาดเข็มขัด ราคาจะแตกต่างกันไป(อันนี้ต้องจ่ายเพิ่มสะหรับคนที่อยากซื้อนะคะ)

​​มุมกระเป๋าราคา 800เยน (ถ้าเป็นกระเป่าฟรีที่ได้จะเป็นผ้าไม่ได้เลือกตรงนี้นะ)

​​รองเท้าสำหรับขาย

ขั้นตอนการแต่งชุดยูกาตะในร้านเช่าชุดยูเมะยะกาตะเกียวโต

เมื่อเลือกทุกอย่างได้แล้วก็เดินขึ้นไปชั้นถัดไป(ชั้น3)เพื่อแต่งตัวกันเลย เสียดายที่ชั้นแต่งตัวถ่ายรูปไม่ได้ค่ะ ห้ามเด็ดขาด ไม่งั้นจะถ่ายรูปขั้นตอนแต่งตัวมาให้ชมสักหน่อย

เมื่อแต่งตัวเสร็จแล้วก็เดินขึ้นไปชั้นถัดไป(ชั้น4)เพื่อเลือกกระเป๋าเข้าชุดที่ทางร้านมีให้ยืมฟรีและฝากกระเป๋าผ้าสีแดงที่ใส่เสื้อผ้าที่เราถอดไว้กันเลย

ราคาค่าเช่าชุดยูกาตะเท่าไร

เมื่อฝากทุกอย่างเสร็จแล้วก็กลับลงชั้น 1 เพื่อชำระเงิน จ่ายไปทั้งหมด (3,500 + 200 )+ภาษี8% = 3,996 เยน(ประมาณ1,200บาท) แล้วเดินออกจากร้านแบบสวยๆได้เลยค่ะ ราคานี้สามารถใส่ได้ทั้งวันเลยค่ะแค่ต้องกลับมาเปลี่ยนชุดคืนที่ร้านก่อนเวลา19:30น.ค่ะ แต่โอคซังแนะนำให้ลองอินบอคถามที่ร้านตามลิ้งที่เคยแนบไว้ด้านบนจะดีกว่าค่ะเพราะทางร้านชอบมีโปรโมชั่นมากมายค่ะ

แต่งตัวพร้อมแล้วก็ไปเดินเล่นงานวัดกันเลยค่ะวันนี้จะไปไปแถวๆโซนGionโดยรถบัสสาย80ค่ะ(ค่ารถเที่ยวละ 230เยนค่ะ แต่ถ้าใครอยากซื้อบัตรเหมา1วันขึ้นกี่เที่ยวก็ได้ราคา600เยนสามารถซื้อได้ที่คนขับเลยค่ะ) ป้ายขึ้นก็อยู่ไม่ไกลจากร้าน ถ้าเดินออกมาจากร้านให้เดินไปทางซ้าย จะมองเห้นร้านขายของร้อยเยนและสะพานลอย ป้ายจะอยู่หน้าร้านร้อยเยนก่อนถึงสะพานค่ะ

พาเที่ยวงานวัดแบบญี่ปุ่นที่เกียวโต

หลายๆวัดในเกียวโตจะมีการจัดงานขึ้นหน้าตาจะคล้ายๆกันในทุกที่ค่ะ

​​

คนเยอะมากๆค่ะ ร้านค้าก็เช่นกันกันเยอะมากจริงๆค่ะ เรื่องอาหารราคาจะเริ่มต้นที่ประมาณ300เยนขึ้นไป ถ้าใครจะเดินเล่นในนี้รับรองว่าเสียเงินไปกับค่าอาหารเยอะแน่นอนค่ะ น่าทานทั้งนั้นเลยค่ะ

ร้านขายน้ำแข็งใส

​​ร้านขายมะม่วงสุก

​​

เนื้อทอดนุ่มๆสำหรับคนชอบทานเนื้อ

น้ำดื่มเย็นๆ และเสื้อผ้ากิโมโนมือสอง เห็นราคาติดไว้ที่2,000เยนเท่านั้น

ยิงเป้าแลกของรางวัลก็มี

ในระหว่างทางก็ถ่ายรูปกันไปแบบเพลิดเพลิน เพราะตลอดย่านGion เต็มไปด้วยกลิ่นไอความเป็นญี่ปุ่นจริงๆค่ะ ทั้งอาคารบ้านเรือน ร้านค้า ซุ้มขายของ ดนตรี โคมไฟประดับ อีกทั้งยังเดินเที่ยวในชุดยูกาตะแบบนี้ ฟิลลิ่งสาวญี่ปุ่นมาจึงถ่ายรูปตลอดทางเลยค่ะ

ถ่ายรูปเล่นเพลินๆแถวฮิกาชิยามะและกิอง

โอคซังเลือกใส่แบบสีดำๆขาวๆส้มๆ และเลือกเข็มขัดสีดำให้ไม่แย่งความเด่นบนลายชุดค่ะ ส่วนหมวกใบนี้พกมาเองค่ะ

บรรยากาศภายในวัดค่ะ ได้อารมณ์ย้อนยุคมากๆค่ะ

เพื่อนชาวอินโอนีเซียที่มาเดินเล่นด้วยค่ะ นางน่ารักมาก

ล้างมือล้างปากก่อนเข้าวัดค่ะ

หยิบกันคนละไม้ละมือ

แบบเต็มๆตัวค่ะ รองเท้าแตะของโอคซังเองค่ะ ไม่ได้ใช้ของที่ร้าน เพราะกลัวเดินลำบากก็เลยใส่ของตัวเองตั้งแต่แรกเลยค่ะ

ด้านหลังค่ะ โบว์ใหญ่ชอบมากค่ะ

หลังจากนี้พวกเราก็เดินไปที่ร้าน กาแฟ Star bucks Coffee สาขาอันมีชื่อเสียงด้านการประดับร้านให้เข้ากับบรรยากาศกลิ่นไอความเป็นญี่ปุ่นดั้งเดิม ใครอยากรู้อ่านเลยค่ะ รีวิว:ลุย Starbucks สาขาKiyomizuวัดน้ำใส เกียวโต

ความประทับใจ

วันนี้ประทับใจสุดๆไปเลยค่ะ ถึงแม้อากาศจะร้อนมาก แต่เราสาวๆก็เดินกันแบบสู้สุดใจเพราะระหว่างทางเดินเต็มไปด้วยบรรยากาศที่สวยงามของเมืองเกียวโต นักท่องเที่ยวหลายคนก็ไม่รู้ว่าเรานั้นคือคนไทยมีคนขอถ่ายรูปด้วยด้วยค่ะ แอบงงๆ และบอกว่าแอมฟรอมไทยแล้นค่ะ ฮ่าๆ สนุกดีค่ะ ทั้งผู้ชายและผู้หญิงถ้ามาเที่ยวที่เกียวโตแห่งนี้แนะนำว่าต้องเช่าชุดกิโมโน ชุดยูกาตะใส่เดินเล่นให้ได้นะคะ กิจกรรมนี้จะสร้างรอยยิ้มและสีสันให้การเดินทางในครั้งนี้แน่นอนค่ะ

และเมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวเราก็สามาถเช่าชุดกิโมโนได้อีก เรียกได้ว่าไม่ว่าใครจะช่วงฤดูไหนก็สามารถใส่ชุดแบบญี่ปุ่นได้เต็มที่เลยค่ะ [มาใส่ชุดกิโมโนเที่ยวเกียวโต1วันแล้วฝนยังจะตกอีก! จะเป็นอย่างไร[รีวิว]],

[ที่เที่ยวTop7ของเกียวโตตะวันออกฝั่งวัดน้ำใสและรอบๆเที่ยวได้ใน1วัน[แนะนำ]],

[เที่ยวเกียวโต1วันด้วยตัวเองไปศาลเจ้าคิฟุเนะ(KifuneJinja-Shrine)เกียวโตสุดลึกลับ!รีวิวละเอียดยิบ]

โอคซังขอตัวไปเดินเล่นในวัดก่อนค่ะ แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้านะคะ

สวัสดีค่ะ มาตะเน้