ที่นั่งBusiness class การบินไทยเป็นความฝันอันเกินเอื้อมมานานแสนนาน จนในที่สุดวันนี้ได้นั่งแล้วค่ะ ปาดน้ำตากับราคาแต่ก็ถือว่าคุ้มค่ามากๆเลยนะคะ ครั้งนี้ด้วยความตื่นเต้นที่มีโอคซังจึงขอรีวิวให้ใครหลายๆคนที่กำลังลังเลยว่าจะใช้บริการดีหรือไม่นะมาชมความสะดวกสบายที่ได้รับตลอดการเดินทางกันเลยค่ะ ! แล้วมาดูไปพร้อมกันว่าการบินไทยของเราไม่แพ้สายการบินไหนเลย
- ราคาตั๋วชั้น Business Class การบินไทยไปญี่ปุ่นราคาเท่าไร?
- การเชคอินตั๋ว
- การเข้าใช้เลานจ์ห้องรับรองการบินไทย
- ผู้โดยสารBusiness Classรับบริการนวดได้ 30 นาที
- ขึ้นเครื่องกันเถอะ! โดยจะมีการประกาศเรียกขึ้นเครื่องตามลำดับความสำคัญของตั๋วและสถานะสมาชิกลูกค้าสายการบินค่ะ
- มาสำรวจที่นั่งชั้นธุรกิจ(Business Class) กันเลย!
- ห้องน้ำภายในเครื่องบินโซนBusiness Classเป็นยังไง
- อุปกรณ์เครื่องอำนวยความสะดวกที่ได้รับตลอดการเดินทางมีอะไรบ้าง?
- ที่นั่งปรับนอนราบได้?
- อาหารบนเครื่อง
- การออกจากเครื่องและรับกระเป๋า
ราคาตั๋วชั้น Business Class การบินไทยไปญี่ปุ่นราคาเท่าไร?
ราคาประมาณ 60,000-75,000 บาท เมื่อเปรียบเทียบราคากับที่นั่งชั้นธรรมดา Economy Class แล้ว ราคาชั้นธุรกิจ( Business Class) จะแพงกว่าถึง 3-4เท่าเลยทีเดียว
เมื่อราคาสูงกว่าแบบธรรมดามากขนาดนี้แล้วสิทธิพิเศษที่จะได้รับมีอะไรบ้างนะ
– น้ำหนักกระเป๋า 40 kg.
– รับไมล์สะสม 125%
– ที่นั่งมีความกว้างสบายมากขึ้น
– สิทธิพิเศษต่างๆในเครือStarAlliance และอื่นๆอีกมากมาย
ไฟล์บินที่บินไปญี่ปุ่นครั้งนี้คือ ไฟล์ทจากสนามบินสุวรรณภูมิ(Suvarnabhumi Airport)-โอซาก้า (KIX Kansai International Airport,Japan) ประเทศญี่ปุ่น ไฟล์ทนี้เป็นไฟล์ทเที่ยวบินกลางคืนดังนั้นภาพที่ถ่ายมาให้ชมอาจมีความมืดมัวไปบ้างต้องขออภัยที่ด้วยค่ะ
การเชคอินตั๋ว
อันดับแรกสำหรับผู้โดยสารชั้นธุรกิจเมื่อมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิแล้วไม่ต้องเดินไปต่อแถวให้เมื่อยอีกต่อไป ให้ตรงไปที่เคาน์เตอร์Aของสายการบินไทยได้เลยค่ะ จะอยู่ริมสุดซ้ายมือหลังจากก้าวเข้าประตูสนามบินชั้นเชคอิน
ก่อนที่จะเข้ามาจะมีทางกั้นที่ให้แต่เฉพาะผู้มีตั๋วชั้น Frist Class กับBusiness Classเข้าได้เท่านั้น
ว่างทุกช่องเคาน์เตอร์ คนน้อยมาก เชคอินได้อย่างสบายใจไม่ต้องกลัวตกเครื่อง
จากนั้นก็เดินไปช่องตรวจพาสปอร์ตช่องพิเศษ ที่มีไว้ให้เฉพาะผู้โดยสารชั้นBusiness class กับFirst class เท่านั้นเห็นไกลๆอยู่ตรงนั้น ถ้ายมาได้เท่านี้เพราะจุดนั้นห้ามถ่ายภาพค่ะ
พื้นที่บริเวณด้านหน้าโดยรอบเคาน์เตอร์เชคอินA จะมีโซฟาให้นั่งพักนั่งรอไว้รับรองอยู่ด้วย
การเข้าใช้เลานจ์ห้องรับรองการบินไทย
สำหรับผู้โดยสารกลุ่มBusiness Class สามารถเดินมายังเลานจ์ได้โดยตรงหลังจุดตรวจพาสปอร์ตสะดวกสบายแบบสุดๆไม่ต้องเดินหาให้งง
ภาพทางเดินลงบันไดเลื่อนที่เชื่อมไปยังห้องรับรองการบินไทยได้โดยตรงอยู่ติดกันกับจุดตรวจพาสปอร์ตค่ะ
ในระหว่างที่รอเวลาเรียกขึ้นเครื่องสามารถใช้บริการนั่งรอขึ้นเครื่องในห้องรับรองสายการบินได้แบบสบายๆ มีทั้งอาหาร ขนม เครื่องดื่มต่างๆภายในห้องรับรองไว้บริการโดยเราสามารถเลือกใช้ห้องรับรองสายการบินไทยที่มีอยู่หลายแห่งในสนามบินสุวรรณภูมิได้ค่ะ เลือกที่ใกล้เกตประตูของเราให้มากที่สุดนะคะ อ่านรีวิวของเลาจน์ในแต่ละที่ได้ค่ะจะได้เลือกเข้าใช้งานกันได้ถูกค่ะ หรือถ้าใครที่ไม่ได้เป็นสมาชิกบัตรทองหรือซื้อตั๋วชั้นธุรกิจก็สามารถจ่ายเงินเพื่อเข้าใช้ได้เช่นกันค่ะ
ภาพตัวอย่างอาหารภายในเลานจ์
ภาพบรรยากาศในเลานจ์
เลาจน์ โซน couse D (ใกล้จุกตรวจพาสปอร์ตที่สุด ผู้โดยสาร Business classเดินลงบันไดเลื่อนภาพด้านบนลงมาก็เจอเลยแนะนำให้เช้าใช้ห้องนี้ค่ะ ดีมากๆ) ห้องใหญ่> 5ความประทับใจกับRoyal Orchid Lounge Thai Airways สนามบินสุวรรณภูมิ[รีวิว] เลานจ์กลุ่มBusiness Class
หรือจะลองเข้าใช้เลานจ์อื่นๆดูก็ได้ตามนี้ค่ะ
เลาจน์ฝั่งEast โซนconcouse C
ห้องใหญ่ > THAI Royal Silk Lounge สนามบินสุวรรณภูมิ concourse Cเป็นอย่างไร[รีวิว]
เลาจน์ฝั่งWestโซนconcouse E
ห้องใหญ่ > ห้องรับรองการบินไทย(Thai Royal Silk Longe E)ห้องใหญ่[รีวิวพาชม]
ห้องเล็ก > เลานจ์ห้องรับรองการบินไทยE(Thai Royal Silk Lounge concourse E)สนามบินสุวรรณภูมิปีกขวาห้องเล็ก[รีวิว]
ผู้โดยสารBusiness Classรับบริการนวดได้ 30 นาที
ใครที่หาห้องนวดสปาการบินไทยไม่เจอ แนะนำให้ถามกับเจ้าหน้าที่ที่เลานจ์ โอคซังก็ถามมาเหมือนกันค่ะ ตอนที่เราออกจากมาจากจุดตรวจพาสปอร์ตแล้วเราต้องลงบันไดเลื่อนเพื่อนเข้ามายังเลานจ์ ตรงนี้หล่ะค่ะ เราแค่เดินมาทางซ้ายมือเดินเข้ามายังโซน Royal Silk Lounge เดินไปเรื่อยๆจนสุดทางจะเจอกับประตูทางออกนอกเลาน์
เมื่อเราออกจากประตูนี้มาลองเงยหน้าดูจะเห็นว่ามีป้ายเขียนบอกไว้ว่าตอนนี้เราอยู่ที่ Royal Silk Lounge concouse D
และลองมองไปทางด้านซ้ายมือฝั่งตรงกันข้ามเราจะเจอกับเลานจ์เล็กๆที่เขียนว่า Royal Orchid Spa
ใช่ค่ะ!!! เรามาถึงแล้ว
และเนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้โอคถ่ายภาพมาได้ โอคจึงจะมาบรรยายรายละเอียดเล็กๆน้อยๆให้อ่านกันนะคะ
ผู้โดยสารชั้นBusiness Class สามารถเลือกนวดบ่าหรือเท้าก็ได้เป็นเวลา30นาที โอคเลือกนวดบ่าค่ะ ผลลัพธ์ที่ได้คือเจ็บไปทั้งตัวและสบายดีไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
หลังจากที่นวดเสร็จแล้วทางเลานจ์ได้เสิร์ฟน้ำขิงให้ดื่ม ซ่าๆอร่อย ทำให้รู้สึกอุ่นจากถายในเลยค่ะ
ที่สังเกตเห็นได้ชัดเจนหลังจากนวดและดื่มน้ำขิงแล้วคือจากที่โอคเป็นคนผิวขาวเหลืองกลายเป็นโอคตัวแดงไปทั้งตัวเลยค่ะแดงออกมาจากผิวอย่างเห็นได้ชัด เลือดลมคงไหลเวียนดีมากๆจริงๆ
ขึ้นเครื่องกันเถอะ! โดยจะมีการประกาศเรียกขึ้นเครื่องตามลำดับความสำคัญของตั๋วและสถานะสมาชิกลูกค้าสายการบินค่ะ
หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าการประกาศเรียกขึ้นเครื่องจะมีการประกาศตามสถานะตั๋วเครื่องบินด้วยค่ะ เมื่อใกล้ถึงถึงเวลาประกาศเรียกขึ้นเครื่องจะต้องยืนรอต่อแถวเพื่อรอขึ้นเครื่องที่หน้าGateโดยผู้โดยสารที่จะได้ขึ้นเครื่องก่อนจะเรียงตามลำดับ
-
กลุ่มที่1 ผู้โดยสารชั้น Frist Class และBusiness class
-
กลุ่มที่2 สมาชิก Royal Orchid plus Platinum & Gold ,สมาชิก Star alliance gold [มาทำความรู้จัก Star allianceกัน สำหรับใครที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ ข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมาก เพื่อสิทธิพิเศษมากมายที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน]
-
กลุ่มที่3 ผู้โดยสารชั้น Economy
มาสำรวจที่นั่งชั้นธุรกิจ(Business Class) กันเลย!
บรรยากาศโดยรอบของที่นั่ง ในแต่ละที่นั่งจะแบ่งเป็นแบบ 1-2-1
ดังนั้นจึงไม่เแปลกใจเลยที่ราคาจะสูงกว่าแบบEconomy Classมากๆค่ะ
ที่นั่งกว้างขวางให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวเนื่องจากระหว่างทุกๆที่นั่งจะมีฉากกั้นค่ะ ใครที่อยากนั่งคู่กันก็สามารถเลือกนั่งแถวกลางได้ และที่สำคัญทุกที่นั่งสามารถลุกเข้าห้องน้ำได้สะดวกไม่รบกวนกันและกันค่ะ
ที่นั่งของเราวันนี้สวยงามมากๆค่ะ โอคซังถ่ายรูปนี้ตอนเดินทางถึงญี่ปุ่นแล้วไม่ต้องแปลกใจนะคะว่านี่เป็นบินไฟล์ทกลางคืนแต่ทำไมสว่างจัง ที่นั่งกว้างสบายและสะอาดมากๆค่ะ
มุมมองด้านหน้าที่นั่งจะมีจอให้ดูภาพยนต์ การ์ตูน ฟังเพลง
และช่องที่ถัดลงมาจะเป็นช่องวางเท้า เมื่อเวลาที่เรานอนหลับและปรับเบาะให้เอนในระดับระนาบแล้วพื้นที่ส่วนนี้จะกลายเป็นเตียงนอนได้เลย สำหรับช่องถัดลงไปด้านล่างสุดเป็นช่องสำหรับเก็บวางรองเท้า ด้านขวาของภาพจะเป็นช่องสำหรับใส่ของส่วนตัว
พื้นที่วางเท้าด้านหน้ากว้างสบายสามารถยืดขาได้เต็มที่
โต๊ะสำหรับทานอาหารจะพับไว้ด้านข้างสามารถดึงลงมาได้แค่ปลดสลักที่มุมซ้ายบน
ข้างๆโต๊ะทานอาหารจะมีที่แขวนเสื้อโค้ทเสื้อคลุมไว้ด้วย
ห้องน้ำภายในเครื่องบินโซนBusiness Classเป็นยังไง
ห้องน้ำของบริเวณชั้นBusiness class จะเหมือนกับห้องน้ำชั้น Economy แต่ชั้นBusinessจะมีคนใช้น้อยกว่า ต้องบอกว่าแทบจะไม่มีคนใช้เลยค่ะน่าจะเพราะว่าทุกคนนอนปรับเบาะสบายหลับกันแทบทุกคน โอคเลยเดินเข้าออกห้องน้ำเหมือนของส่วนตัวไปเลย
อ่างล้างหน้ามีดอกกล้วยไม้สัญลักษณ์ของสายการบินไทยประดับอยู่ด้วย น่ารักมากๆ
โถสุขภัณฑ์ตามมาตรฐานทั่วไปของสายการบิน
อุปกรณ์เครื่องอำนวยความสะดวกที่ได้รับตลอดการเดินทางมีอะไรบ้าง?
รีโมทควบคุมการทำงานของจอโทรทัศน์ด้านหน้าจะอยู่ด้านข้างที่วางพิงแขนของเราอาจจะเป็นด้านซ้ายหรือขวาขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่นั่งของเราค่ะ
หูฟังคุณภาพดี ใส่สบาย เสียงดี ไม่รัดหัว ดีมากๆ อันนี้เอากลับบ้านไม่ได้นะคะสามารถใช้ได้เฉพาะบนเครื่องบินเท่านั้นค่ะ
ผ้าห่มของการบินไทยหนา นุ่มมือ และอุ่นมาก
ห่มสบายตัวไม่คัน ไม่อึดอัดเลยค่ะ
ที่นั่งปรับนอนราบได้?
ลองสังเกตด้านบนใกล้ๆกับกับรีโมทจอจะมีปุ่มฟังชั่นของที่นั่งชั้น Business Classที่มีความพิเศษสามารถปรับเบาะในระดับราบได้เพื่อเป็นที่นอนนอกจากนี้ยังมีฟังชั่นระบบนวดอีกด้วย (ลองใช้แล้วเป็นการนวดแบบผ่อนคลายสบายตัวค่ะ)
หลับสนิทตลอดการเดินทาง
อาหารบนเครื่อง
หลังจากที่เราเข้ามาด้านในเครื่องแล้วพนักงานจะเสริฟเครื่องดื่มตามใจชอบ
เสริฟเครื่องดื่มพร้อมผ้าร้อนใครที่ไม่สันทัดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ขอแนะนำเป็นน้ำลิ้นจี่การบินไทยแบบโอคก็ได้นะคะ รับรองว่าจะติดใจ
ระหว่างที่เครื่องทำการบินพนักงานบนเครื่องจะมาถามว่าต้องการรับอาหารเช้าหรือไม่ จะรับเป็นเซตไหน และต้องการให้ปลุกหากนอนหลับหรือไม่ ถือว่าใส่ใจรายละเอียดมากๆ (เป็นบ่อยไหมคะที่กลัวว่าหากนอนหลับแล้ว พอตื่นปั๊บเครื่องถึงที่หมายพอดี ไม่ได้กินข้าวแน่ๆ ปัญหานี้จะหมดไปอย่างแน่นอน)
เมื่อเครื่องทำการบินขึ้นไปสักพักก็มีการเสิร์ฟของทานเล่นพร้อมน้ำดื่ม สามารถทานเพลินๆพร้อมกับดูหนังไปเรื่อยๆไม่เบื่อค่ะ
หลังจากเครื่องทำการบินไปแล้วประมาณ 20 นาที ทางสายการบินได้มีเมนูพิเศษให้ทานก่อนเพื่อเป็นการรองท้อง
น่ารัก
อร่อยทุกคำที่ได้ทาน โดยเฉพาะข้าวปั้นหน้าปลาไหลอันนี้อร่อยมากๆ
ขนมหวานชิ้นนี้ก็หอมอร่อย เป็นเหมือนคุ๊กกี้ที่ราดมูสช็อกโกเลตและวางข้างบนด้วยสตอเบอร์รี่หวานๆ โอคซังไม่รู้จริงๆว่าเขาเรียกว่าอะไร รู้แต่ว่าอร่อยมากๆอยากทานอีกหลายๆชิ้น
หลังจากทานอาหารรองท้องไปแล้วก็นอนหลับไปแบบยาวๆเลยค่ะ เมื่อถึงเวลาอาหารแอร์โฮสเตสจะมาปลุกเราเอง
ตื่นมาเจอกับชาเขียวร้อนที่เราสั่งไว้ตั้งแต่แรก ประทับใจจริงๆค่ะ
ตื่นได้ไม่นานอาหารเช้าของเราก็มาเสริฟถึงที่
เนื่องจากไฟล์ทบินที่ใช้บริการเป็นไฟล์ทกลางคืน อาหารที่มาเสิร์ฟจึงเป็นเซตอาหารเช้าโอคซังจึงเลือกเซตข้าวต้มกุ้งที่เสริฟมาในภาชนะถ้วยจานชามจริงๆไม่ใช่พลาสติกบางๆ มีช้อนซ้อมมีดให้ครบ
ข้าวต้มกุ้งตัวโต
ขนมปัง3ชนิดสามารถทานคู่กับเนยหรือแยมสตอเบอร์รี่ที่อร่อยมากๆ
ผลไม้5อย่างที่หวานอร่อยมาก
และโยเกิร์ต…เมนูที่โอคซังไม่เคยชอบทาน แต่!!!! ครั้งนี้การบินไทยได้เปลี่ยนใจโอคไปเรียบร้อยแล้ว ถ้าใครเคยอ่านบทความก่อนจะรู้ว่าโอคเป็นคนที่ไม่ชอบกินโยเกิร์ตมากๆ แต่โยเกิร์ตถ้วยนี้อร่อยจริงๆ ทั้งหวาน หอม อร่อย เชฟคนที่ทำต้องเก่งมากแน่ๆ โอคทานหมดไม่มีเหลือค่ะ
ความคิดเมื่อก่อนที่เคยทานอาหารในชั้นBusiness Classการบินไทย : โดยส่วนตัวรสชาติไม่ค่อยถูกปาก รสชาติอ่อนเหมือนอาหารโรงพยาบาลที่สะอาด อ่อนๆ นางพยาบาลมาเสริฟให้ทานอารมณ์คล้ายๆแบบนี้ น่าจะเพราะทางสายการบินพยายามทำรสชาติให้คนหลายๆชาติสามารถทานได้ แต่ทำไมต้องเสริฟโยเกิร์ต ไม่ใช่ทุกคนจะชอบทานโยเกิร์ตนะคะ
ความคิดในปัจจุบันเกี่ยวกับอาหารชั้น Businesss Class: อาหารอร่อยมากๆ อร่อยจนตกใจและรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของการบินไทยจริงๆ กุ้งที่เสริฟมาในข้าวต้มเนื้อแน่นตัวโต เห็ดหอมก็เยอะ อร่อยคล่องคอสุดๆ ขนมปัง3อย่างเป็นอะไรที่ทานได้ไม่เบื่อรสชาติอร่อยทุกชิ้นลามไปถึงเนย แยมสตอร์เบอร์รี่ และโยเกิร์ตที่อร่อยที่สุดในชีวิตที่เคยกินมา เห้ย!!!! การบินไทยเปลี่ยนใจเราได้ยังไงขนาดนี้ งงกับตัวเองไปเลยค่ะไม่คิดมาก่อนว่าจะประทับใจแบบสุดๆ
การออกจากเครื่องและรับกระเป๋า
ออกจากเครื่องบินก่อนใครเลยค่ะ มองไปไม่เห็นใครสักคนทางสะดวกโล่งสุดๆ
ส่วนกระเป๋าโอคซัง ได้รับกระเป๋าเป็นใบที่4 จากสายพานที่กระเป๋ามีป้าย PRIORITY ติดมาด้วยเนื่องจากเป็นลูกค้าชั้น Business class นั่นเองค่ะ
สรุป ความคิดเห็นในครั้งก่อน: บทความนี้โอคซังมาแนะนำที่นั่งแบบ Business Class ของสายการบินไทยThai airway โดยรวมตลอดการเดินทางชอบมาก ถ้าให้คะแนนได้ คะแนนส่วนตัวจะให้ที่ 8/10 หัก 2 คะแนนเรื่องอาหาร ความคิดเห็นส่วนตัวคิดว่าอาหารมีตัวเลือกให้เลือกทั้งเซตอาหารตะวันตกหรืออาหารไทยอยุ่แล้ว แต่รสชาติของอาหารไทยจะอ่อนไปมากถึงมากที่สุด ด้วยความเกรงใจในราคาตั๋วต้องทานให้หมด แต่เรื่องอื่นโอเคและดีหมดค่ะ ทั้งมารยาทความน่ารักของพนักงานต้อนรับ ความสะอาด กลิ่น ผ่านมากๆค่ะ
สรุป ความคิดเห็นปัจจุบัน: ตลอดทั้งทริปสุขกาย สุขใจกับบริการที่น่ารักของแอร์โฮสเตสสุดสวย(แอบกระซิบว่าพนักงานที่บริการเราในวันนี้ชื่อพี่เบ๊น) อุปกรณ์อำนวยความสะดวกเช่นเซตของใช้อาจจะลดลง แต่คุณภาพด้านอื่นเพิ่มขึ้นโอคซังก็โอเคมากๆ ของใช้ เบาะที่นั่งใหม่สะอาด อาหารอร่อยเวอร์วังคุณพ่อคุณพ่อเจ้าขาชีวิตเจอโยเกิร์ตที่อร่อยที่สุดในชีวิต ไม่รู้ว่าจะบรรยายความประทับใจในครั้งนี้ออกมาได้หมดยังไง ลองใช้การบินไทยกันดูนะคะเพราะครั้งนี้โอคซังประทับใจและเข้าใจกับสโลแกนคำว่า รักคุณเท่าฟ้าจริงๆ ถ้ามีโอกาสครั้งหน้าจะกลับไปใช้บริการอีกแน่นอนค่ะ ครั้งนี้เอาคะแนนไป 10/10 เลย!!!!
คลิปรวม 14 สิทธิพิเศษของผู้โดยสารกลุ่ม Business Class
สำหรับใครที่คิดว่างบประมาณมีไม่มากพอที่จะนั่งBusiness Class ของการบินไทยโอคซังแนะนำลองใช้Business ClassสายการบินScootสัญชาติสิงคโปร์ดูกันได้ค่ะ ที่นั่งหรือบริการอาจจะดีไม่เท่าเพราะราคาต่างกันมากถูกกัน3เท่า แต่ที่นั่งก็สบายอาหารอร่อยมาก(มากๆๆ)โอคซังรีวิวไว้แล้วค่ะอ่านกันได้ค่ะเพื่อเพิ่มอำนาจการตัดสินใจค่ะ [ที่นั่งScootBiz (Business class) ดอนเมือง-ญี่ปุ่น Boeing787เป็นอย่างไร[รีวิว]]
หรือใครที่กำลังสนใจอยากจะลองเปรียบเทียบกับที่นั่งแบบชั้นประหยัดการบินไทยลองอ่านรีวิวที่นั่งชั้นประหยัดการบินไทยกันได้ค่ะ
[4ความพิเศษของเที่ยวบินชั้นประหยัด ที่นั่งในชั้น2 เครื่องA380การบินไทยสุวรรณภูมิ-โอซาก้า]
[ที่นั่งแบบนอนได้Flatedในชั้นประหยัดการบินไทยEconomy Thai Airways-TG622 Airbus380]
แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้านะคะ
มาตะเน้
COMMENTS